logo-jauto
หน้าแรกเกี่ยวกับเราราคาติิดตั้งแก๊สรถตัวอย่างราคาอุปกรณ์สาระน่ารู้webboardสอบถาม/แผนที่
เจ ออร์โต้แก๊สFacebook

   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้า: [1]   ลงล่าง
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามพี่เจ เรื่อง obd กับรถยนต์ Honda  (อ่าน 3900 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
peenuspack
Newbie
*
กระทู้: 17


« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 11:56:17 am »

" honda ถึง จะต่อ obd can ได้   ก็จะทำงานได้เพียงบางส่วน ไม่ได้มีผล ทั้งหมด เหมือน toyota ครับ

ทาง ร้าน  กับ ค่าย honda จึง เน้น จูนหนา  เพื่อ เน้น ความแรง  หรือ  แรงบิด ให้มีออกมา ในระดับ ที่ไกล้ เคียง หรือ มากกว่า ตอนใช้ น้ำมัน ครับ

เมื่อ จูน ให้ออกหนา ตลอดทั้งย่าน  จะทำให้มีความรู้สึก เหมือน ใช้ แก๊ส  lpg แล้ว รถวิ่งดีกว่า น้ำมัน ออกเทน 95 ครับ เพราะแก๊ส  ออกเทน 100 แต่ ถ้ารอบสูง ก็แนะนำให้ตัดเป็นน้ำมัน ดีกว่า  ต่อให้ เครื่องยนต์ ออกแบบมา ระบบดีอย่างไร แต่ถ้าใช้รอบสูง  รอบจัด ความร้อนสูง  อย่างไร บ่าวาล์ว ก็สึกหรอเร็ว กว่าน้ำมัน  " อ้างอิงจากคำตอบของพี่เจนะครับ

  อย่างนี้ รถผม New Honda City ยังมีความจำเป็นต้องติดตั้ง obd อีกหรือเปล่าครับ

เมื่อ ระบบ obd จะพยายามทำให้การจ่ายแก๊ส เข้าใกล้ 0% หรือจุดสมบูรณ์  และหากต่อ obd นั้นเท่ากับว่า รถผมจะวิ่งสู้ แบบปรับจูนออกหนา ไมไ่ด้ใช่หรือเปล่าครับพี่เจ

และการจูนแบบออกหนา สำหรับ honda กับการต่อ obd พี่เจเห็นควรว่าอย่างไรดีครับ

( กำลังจะนำรถเข้าไปติดกับพี่วันอังคารนี้แล้ว ^^ ) ขอบคุณครับพี่
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 01:14:50 pm »

ที่เข้าใจ มา นั้นยังไม่ถูกต้องครับ

ที่ถูกต้องคือ  รถยนต์ honda เครื่องยนต์ที่เป็น  i-vtec  ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จะเน้น  ประหยัด  คือ จ่ายน้ำมันบาง กว่าปกติ  แต่ เครื่องยนต์ยังทำงานได้กำลัง และ ชิ้นส่วน เครื่องยนต์ ก็ไม่ได้สึกหรอมาก แต่ได้ ความประหยัดน้ำมัน ขึ้นมา


หากติดตั้งแก๊ส แล้ว ไม่ได้ต่อ obd can กล่องแก๊ส ที่จ่าย  ก็จ่าย ตามน้ำมัน คือ  จะจ่ายบางตามน้ำมัน   ทำให้เรา ต้องจูนแก้ให้หนากว่าน้ำมัน เพื่อ  ให้เครื่องยนต์ทำงานด้วยแก๊ส แล้วได้ กำลังดี  และ สึกหรอน้อย

แต่ หาก  ต่อ กล่อง obd can  กล่อง obd can จะปรับค่า การจ่าย เข้าหา สมบูรณ์  คือ short  term ไกล้ 0 ไม่ได้จ่าย บาง   shrot term มีค่า บวก

ดังนั้น  การจ่ายแก๊ส  เวลา ทำงาน ร่วมกับ กล่อง obd การจ่ายแก๊ส  จะหนา กว่า น้ำมัน ที่จ่าย ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 31, 2011, 04:43:12 pm โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
peenuspack
Newbie
*
กระทู้: 17


« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 07:54:50 pm »

  ออ พอต่อ obd can แก๊สจะจ่ายให้เข้าใจจุดสมบูรณ์ ตลอดทุกย่านความเร็ว เท่ากับว่า ไม่มีคำว่าจ่ายบางเพื่อประหยัด !!!

โอเค เข้าใจแล้วครับพี่ ขอบคุณมากครับ ^______^
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 08:14:05 pm »

เข้าใจ ได้ถูกต้อง แล้วครับ

แต่ ทุกอย่าง ที่แจ้งไป  ก็ทำงาน ตามหลักการของเครื่องยนต์  รุ่นใด  รุ่นหนึ่ง

ช้อมูลเพิ่มเติม  ลอง อ่านเพิ่ม จากนี้ ครับ
เครื่องยนต์ i-VTEC ทำงานอย่างไร ?
 

เครื่องยนต์ i-VTEC เป็นพัฒนาการใหม่ของเครื่องยนต์ VTEC โดยผนวกเทคโนโลยี VTC (Variable Timing Control) เข้ากับระบบ VTEC อันเลื่องชื่อของฮอนด้า

คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าระบบ VTEC เป็นระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพการประจุไอดีโดยใช้ชุดลูกเบี้ยวพิเศษที่มีความสูงมากกว่าปกติทำงานแทนลูกเบี้ยวชุดเดิมเมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วรอบสูงขึ้น กระบวนการควบคุมให้

ลูกเบี้ยวตัวสูงส่งแรงกดไปยังกระเดื่องวาล์วนี้อาศัยแรงดันของน้ำมันเครื่อง โดยมีกล่องคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่

ควบคุมจังหวะการทำงานของระบบ VTEC ให้สัมพันธ์กับการขึ้นลงของลูกสูบและความเร็วในขณะนั้น การทำงานอย่างแม่นยำของกล่องคอมพิวเตอร์ได้มาจากสัญญาณของตัวตรวจจับ(เซนเซอร์)จำนวนมาก เครื่องยนต์ VTEC จึงเป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันแต่ไม่มีระบบ VTEC

แต่การทำงานของระบบ VTEC นั้นเกิดขึ้นที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์จุดใดจุดหนึ่งเป็นต้นไปและจะทำงานด้วยจังหวะและระยะเปิดของวาล์คงที่ แม้จะได้ประสิทธิภาพการเผาไหม้เพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นการเพิ่มที่มีอัตราคงที่ตามความเร็วของเครื่องยนต์ วิศวกรพบว่าหากสามารถปรับเปลี่ยนจังหวะการเปิดปิดของวาล์วเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวะการเลื่อนขึ้นลงของลูกสูบให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ก็จะทำให้ปริมาณการประจุไอดีสัมพันธ์กับความต้องการของเครื่องยนต์ยิ่งขึ้น ผลก็คือจะได้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงปริมาณเท่าเดิม

การทำให้ตำแหน่งเริ่มเปิดหรือเริ่มปิดของวาล์วไอดีผันแปรไปทำได้โดยหมุนเปลี่ยนตำแหน่งเพลาราวลิ้นให้ความสัมพันธ์ของเพลาราวลิ้นกับเพลาข้อเหวี่ยงเปลี่ยนไป ในเครื่องยนต์ i-VTEC (I= Intelligence) ที่ปลายเพลาราวลิ้นด้านไอดีบริเวณเฟืองขับจะมี VTC Actuator ประกอบอยู่ อุปกรณ์นี้ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนองศาที่ลูกเบี้ยวเริ่มแตะก้านวาล์วให้เร็วขึ้น( Advance) หรือช้าลง( Retard) การทำงานจะใช้แรงดันน้ำมันเครื่องที่จ่ายให้กับห้องน้ำมันในอุปกรณ์ดังกล่าวไปดันให้ใบพัด ( Vane) ซึ่งต่ออยู่กับเพลาราวลิ้นขยับตัวไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แรงดันที่จ่ายให้กับห้องน้ำมันของ Actuator จะถูกควบคุมโดยกล่องคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ซึ่งประมวลผลจากสัญญาณที่ได้รับจากตัวจับสัญญาณ(เซนเซอร์)ดังได้กล่าวมาแล้ว

     
ที่มา http://www.accord9802club.com/board/index.php?topic=1721.0
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 02:12:06 pm »

ข้อมูลเพิ่มเติม

http://jautogas.com/board/index.php?topic=1345.0


* image.jpg (45.01 KB, 500x385 - ดู 269 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF DK THEME: deruni
Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!

J AUTOGAS

34/38 ซ.แจ้งวัฒนะ 43 หมู่ที่1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร 02-5744-313  เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00น.

สายด่วนลูกค้าทางร้าน

โทรได้ตลอดไม่เว้นวันหยุด

phone084