logo-jauto
หน้าแรกเกี่ยวกับเราราคาติิดตั้งแก๊สรถตัวอย่างราคาอุปกรณ์สาระน่ารู้webboardสอบถาม/แผนที่
เจ ออร์โต้แก๊สFacebook

   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้า: [1]   ลงล่าง
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่างToyota VS Honda เครื่อง 2.0 กับ 2.4 ตัวไหนติดแก็สแล้วทนกว่ากัน  (อ่าน 51292 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mailwalker
Newbie
*
กระทู้: 3


« เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 10:27:07 pm »

เรียนถามคุณเจครับ คือผมกำลังจะเปลี่ยนรถไนอนาคตอันไกล้ ต้องการรถคันไหม่ที่ซื้อมาเพื่อที่ใช้แก็สโดนเฉพาะ ทังชีวิดมีประสบการณ์การใช้รถระหว่าง
อดีตขับ Toyota Alits 1.8top (ตัวModelก่อนปัณจุบัน) 4ปีแล้วขาย
ปัณจุบันขับHonda Civic fd 2.0top 4ปีจนถึงขณะนี้ พื่งติดแก็สversus ขับมาแล้วประมาณ12000โล ยังไม่พบปัญหาครับ

แต่เพราะเรื่องน้ำมันแพง+civic fd 2.0ที่ติดแก็สมา จากที่อดีตที่เคยอคติgas แต่เมื่อได้มาลองกับตัวเองจริงจริง ผมจืงคิดที่จะซื้อรถคันไหม่เพื่อgasโดนเฉพาะครับ

แต่จากประสบการณ์การใช้งานจริงระหว่างรถsizeเดียวกัน (ส่วนตัว) พบว่าToyota Altis ตัวที่ไช้ด้อยกว่าทุกด้านถ้าเทียบกับcivic 2.0ที่ผมใช้อยู่ขณะนี้
-ช่วงล่าง / การเกาะถนน
-เครื่องยนต์ / การเร่ง
-Feeling การขับขี่
-ภายใน / การประกอบ / เกรดวัสดุ

อยากได้รถติดแล้วไม่ต้องมานั้งปวดหัว เรื่องเครื่อง etc. ถ้าผมนั้นบริโภคข่าวสารwebboardอย่างเดียวผมคงเลือกtoyota ซิ่งรถคันเเรกผมก็ได้จริงๆ โดนที่เค้าบอกว่าทนกัน
แต่พอใช้จริงไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้น เลยมาcivic fd 2.0 ประทัยไจมาก แล้วถ้ามีคันต่อไป ถ้าเป็นไปได้อยากไห้เป็นhondaอีกครับ แต่ถ้าเพื่อgas ผมอาจเปลื่ยนเป็นtoyota ได้อีกแต่ยกเว้นAltis จืงอยากที่จะขอความกะจ่างจากคุณเจไนเรื่องประสาการณ์จริงทางด้านวิศวะกรครับ ว่า
1. เครืองรุ่นไหนทน ทนอย่างไร ต่างกันอย่างไร (Toyota เครื่อง 2.0 vs Honda 2.0) (Toyota 2.4 vs Honda 2.4)
2. ปสิตภาพของเครื่องยนต์ที่จะวื่งgasได้ มากสุดได้กี่โล / น้อยสุดได้กี่โล / กลางๆกี่โลก่อนที่จะได้ตัดสินไจขายทิ้งทัน

ผมอยากได้รถซื้อมาไช้งานครับ ส่วนตัวเป็นคนขับรถหนัก ทางด่วน140-150 โล่งๆ 170-190 kickdownบ่อย


รบกวนด้วยครับ


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 10:58:13 pm »

เครื่องยนต์ honda ถ้าเป็น ตระกูล  k20   steam  crv g 2  civic fd 2.0      crv g3  2.4  ปัญหา ของเครื่องยนต์บล๊อกนี้คือ   เป็นเครื่องยนต์รอบจัด เน้นกำลังที่รอบสูง ย่าน vtec เปิด เรียกกำลังได้เพิ่ม   ข้อเสีย คือ  บ่าวาล์ว ของเครื่องยนต์ ตระกูลนี้ ยัง นิ่ม ทนแก๊สได้ไม่ดีนัก

ผมมีลูกค้า civic fd 2.0 ติดตั้ง แก๊ส  brc จากที่ผมไป ตั้งแต่ ช่วงเปิดร้านใหม่ๆ เมื่อ 3 ปี ที่แล้วได้  เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเอารถเข้ามาให้ผม ตรวจเช็ค ปรับจูน หลังผ่านการใช้งานมาประมาณ เกือบ  100,000 km  สังเกต จากตัวเครื่องยนต์ที่เพิ่งผ่านการตั้งวาล์วมา   แม้เครื่องยนต์ จะเดินเบาได้ค่อนข้างราบเรียบเหมือนเดิม แต่ รู้สึกได้ว่า  การทำงานของเครื่องยนต์ ไม่นิ่งเหมือนเดิม  และ เสียงกลไก ระบบ วาล์ว ค่อนข้างดังขึ้น กว่าเดิม ค่อนข้างมาก  ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ตอนนี้ ตัว บ่าวาล์ว ระยะ ห่างวาล์ว  ผิดเพี้ยนไปจากเดิม พอสมควร    ดังนั้น  จากประสบการณ์ ที่ผ่านมา  จึง พอวิเคราะห์ได้ว่า เครื่องยนต์ บล๊อกนี้  ไม่ทนแก๊สมากนัก  ติดแก๊ส  วิ่งใช้งานได้ปกติ  แต่ การ สีกหรอ ที่เกิดขึ้น อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง   
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 11:04:58 pm »

หากเป็นเครื่องยนต์ บล๊อก  r18  r20 fd 1.8   crv g3  accord 2.0  เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ เป็น เครื่องยนต์ กำลังอัดสูง  ช่วงชักยาว  เน้นแรงบิดรอบต่ำ
และความพิเศษ ของเครื่องยนต์ แบบ แรงบิดสูงก็คือ  ที่ช่วงการทำงานของเครื่องยนต์ที่โหลดคงที่  สามารถลดการฉีดเชื้อเพลิง ลง เพื่อให้ เครื่องยนต์ทำงานในโหมด เผาไหม้บาง  โดยได้กำลังเท่าเดิม  แต่ ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น

ดังนั้นเครื่องยนต์ ตระกูลนี้ทางโรงงาน ทำบ่าวาล์ว  แหวงลูกสูบ   วาล์ว มา ค่อนข้างให้ทนความร้อน ทนการสึกหรอได้มากกว่าปกติ ทำให้ เมื่อนำมาติดตั้งแก๊ส แล้วทำให้การสึกหรอ ของบ่าวาล์ว เกิดขึ้นในเกณฑ์ต่ำ  คือ สึกหรอน้อย กว่าเครื่องยนต์ทั่วไป


ประสบการณ์ตรง  ลูกค้า  civic fd 1.8  นำรถ ที่เพิ่งวิ่งได้ประมาณ 10,000 km มาติดตั้งเป็น ngv หัวฉีด  brc ไปในช่วงที่ยังไม่เปิดร้าน   หลังติดตั้งแก๊ส ngv ไป ลูกค้าวิ่งใช้งานไปกว่า 100,000 km  ลูกค้า เอารถเข้ามาตรวจสอบ ปรับจูนทั่วไป   เครื่องยนต์ยังทำงานได้ราบเรียบปกติ   อาการสั่น ของเครื่องยนต์อาจมีเพิ่มขึ้นบ้าง  แต่ จุดสังเกต  คีอ  เสียงกลไก ของระบบวาล์ว  ยังค่อนข้างเงียบ เหมือนรถ ที่ผ่านการใช้งานทั่วไป  ไม่ได้ดังเพิ่มขึ้น   แบบ สังเกต ได้แต่อย่างใด

ดังนั้น ถ้าเรื่องความทนแก๊ส   บล๊อกนี้ ถือ ว่า สอบผ่าน  ปัญหาวาล์ว  ไม่ใช่  ปัญหาที่น่า กังวล
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 11:08:56 pm »

หาก จะซื้อใหม่ มาติดตั้งแก๊ส   เอาแบบ ปัญหาโดยรวมน้อยที่สุด  ปัญหาโดยรวม เช่น

ปัญหาวาล์ว    รอบเดินเบา นิ่ง  ไม่ใช่ เวลาแอร์ ตัดต่อ รอบตก  ทำให้ เกิดความรำคาญใจ   ถ้า รถยนต์นั่ง ขนาด กลาง  แนะนำ  new altis 1.8  dual vvt-i  น่าจะดีที่สุด


วาล์วปรับอัตโนมัติ   เกียร์  cvt รุ่นใหม่  ตอบรับกับเครื่องยนต์  ขับในเมือง  ถอนเท้า จากคันเร่ง   เกียร์หน่วงความเร็วให้  ทำให้ ควบคุมรถได้ง่าย

แต่ หาก ขับรถ  และ ต้องการ การทรงตัวที่ดี   ก็อาจ จำเป็นต้องดูเป็นรุ่นอื่น  แต่ ตัวเครื่องยนต์ ปัญหา อาจ ไม่น้อย เหมือน เครื่องยนต์ toyota รุ่นนี้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 11:13:19 pm »

หาก รถยนต์นั่งรถใหญ่ กว่านี้  เช่น camry  accord 

กับ  accord  ตัวปัจจุบัน เครื่องยนต์ ตัว  2.4  ประสิทธิภาพ ที่ทำได้  ถ้าเทียบ กับ เครื่องยนต์ ของ camry  ที่เป็น ตัว 2.4 เท่ากัน  ตัว accord  แรงม้า  กำลัง  พอๆ กัน

เคยมีลูกค้า ขับ แคมรี่ ตัว 2.4 มาเล่าให้ฟังว่า   เคยลองกับ  accord 2.4  ที่ความเร็วปลายระดับ 200 km/hr  และสามารถแซง accord มาได้  ดังนั้น กำลัง อยู่ในเกณฑ์พอๆกัน ไม่ได้ เด่นกว่ากัน

แต่ ถ้านำมาติดตั้งแก๊ส  ตัว เครื่องยนต์  2.4 vvt-i  ของ toyota  ค่อนข้าง ทนแก๊ส ได้ ดี กว่า เครื่องยนต์ บล๊อก  k24 ของ honda
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 11:23:24 pm »

หาก แต่ ขับค่อนข้างเร็ว  140-150  หรือ  เร็วกว่านั้น  แนะนำ ไม่ควรใช้รถติดแก๊ส ครับ  เพราะ เครื่องยนต์ ไม่ว่า จะเป็น บล๊อกไหน  ก็ค่อนข้างสึกหรอเร็ว  ไม่สามารถทำงานได้ทนทาน พอ  ถ้าไม่ได้ รับการปรับแต่ง ชิ้นส่วน ของเครื่องยนต์  เช่น  บ่าวาล์ว  วาล์ว  แหวนลูกสูบ  หรือ  วัสดุอื่นมาจากโรงงานโดยตรง  และ ต้องการ  ช่วงล่างที่ดี เพื่อความมั่นคง ยามใช้ความเร็วสูง

จริงๆ โจทย์ ควรซื้อ  เก๋ง ดีเซล  เทอร์โบ  จะตอบโจทย์นี้ได้ค่อนข้างดี

ผม  ก็มองๆ อยู่เหมือนกัน กำลัง สนใจ  ford focus tdci  2.0 lite
กำลังแรงบิด   ช่วงล่าง รองรับ ความเร็ว  140-150 หรือ สูงกว่านั้นได้สบาย ไม่ต้องลุ้น

แต่ ความคิดทั้งหมด  ก็ต้องกลับมาทบทวนใหม่  เพื่อไปอ่านเจอว่า   เจ้า  tdci 2.0 lite ตัวนี้ วิ่งใช้งานไป 150,000 km แล้ว  เทอร์โบพัง  ลูกค้าคนใช้งาน เจอค่า เทอร์โบ ลูกละ 80,000 บาท และ ค่าใช้จ่าย อย่างอื่นในการซ่อมแซมให้กลับมาสภาพเดิม ในงบ เกือบ  100,000 บาท

ก็เลยคิดว่า  อาจต้องรอ เทอร์โบดีเซล กับ เก๋ง กลางเจ้าอื่น  ที่ดูโครงสร้าง เครื่องยนต์  ดูเทอร์โบ แล้ว ให้ความเชื่อมั่นเรื่องความทนทานได้มากกว่านี้   แล้ว  จะกลับมาคิดเรื่องนี้อีกที ครับ

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 12:10:50 pm »

หาก เป็น เก๋งเล็ก อย่าง new vios  new city  jazz  ทั้งสองตัวนี้  หากเปรียบเทียบกัน ในเรื่อง บ่าวาล์ว   ตัว new city  ตัวบ่าวาล์ว ค่อนข้างทนทานกว่าตัว new vios และ new city  ตัวเครื่องยนต์  ก็เป็นแบบ  ปรับตั้งระยะห่างวาล์วได้    ใช้แก๊สไป  3-40,000 km  ก็สามารถนำรถเข้าศูนย์ honda ทำการ ปรับตั้ง บ่าวาล์วใหม่ เสียค่าใช้จ่ายประมาณ  600 บาท  ก็ใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม

ตัวที่ทำให้  บล๊อกเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ มีบ่าวาล์วที่ทน กว่า  ก็มาจาก  ระบบเครื่องยนต์  แบบ ริงบิดดี ในรอบต่ำ  หรือ  เป็นเครื่องยนต์ แบบ ไฮทอร์ก นั่นเอง  ซึ่งโครงสร้าง เครื่งอยนต์  ระบบเดียวกับเครื่องยนต์บล๊อก r18   r20  เพียง แต่ สลับตำแหน่ง ท่อร่วมไอดี มาไว้ด้านหน้า

ข้อดี ของเครื่องยนต์ แบบไฮทอร์ก ก็คือ    รอบเครื่องยนต์ ตอนเดินทางไกล  ความเร็ว  120-130-140 รอบเครื่องยนต์ จะค่อนข้างต่ำ  คือ  ไม่เกิน 3,000 rpm   หาก เปรียบเทียบ กับ  new vios  รอบเครื่องยนต์ จะสูง กว่า  จุดนี้  ก็เป็นจุดที่ทำให้ ปรับเปลี่ยนมาใช้แก๊ส  แล้วทำให้เกิดการสึกหรอ ที่ว่า มากกว่า เครื่องยนต์ที่มีรอบเครื่องยนต์ กว่า ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
mailwalker
Newbie
*
กระทู้: 3


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 18, 2012, 06:19:51 pm »

ขอบขุณสำหรับคำตอบครับคุณเจ แล้วถ้าผมประมาณการไช้รถไว้7ปีขาย ขับไม่เกิน 150000-200000โล (อย่างได้อย่างนิงถึงก่อน) ถ้าเป็นเครื่อง2.0 accord หรือ 2.0camry นี่จะจะพอไว้ไหมครับ วาวจะยันประมาณกี่โลครับผม รบกวนอีกนิดนิง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Bejita
Newbie
*
กระทู้: 3


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 21, 2012, 01:49:39 pm »

คุณเจครับ

จาก
เครื่องยนต์ honda ถ้าเป็น ตระกูล  k20   steam  crv g 2  civic fd 2.0      crv g3  2.4  ปัญหา ของเครื่องยนต์บล๊อกนี้คือ   เป็นเครื่องยนต์รอบจัด เน้นกำลังที่รอบสูง ย่าน vtec เปิด เรียกกำลังได้เพิ่ม   ข้อเสีย คือ  บ่าวาล์ว ของเครื่องยนต์ ตระกูลนี้ ยัง นิ่ม ทนแก๊สได้ไม่ดีนัก

แอคคอร์ด ปี2005 2.4i  อยู่ในเคสนี้ใช่ไหมครับ  คือ บ่าวาวล์ ไม่ทนทาน แต่ถ้าติดแก๊สแล้วจะต้องปรับแต่ง ประมาณ 50000 โล  ใช่ไหมครับ

ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 21, 2012, 05:25:40 pm »

ขอบขุณสำหรับคำตอบครับคุณเจ แล้วถ้าผมประมาณการไช้รถไว้7ปีขาย ขับไม่เกิน 150000-200000โล (อย่างได้อย่างนิงถึงก่อน) ถ้าเป็นเครื่อง2.0 accord หรือ 2.0camry นี่จะจะพอไว้ไหมครับ วาวจะยันประมาณกี่โลครับผม รบกวนอีกนิดนิง

เครื่องยนต์ แคมรี่ ตัว 2.0  ก็ค่อนข้างทนแก๊สได้ดีเหมือนกัน ครับ  ถึงแม้ ไม่ได้เป็น ระบบวาล์ว ปรับอัตโนมัติ  แต่ ตัวเครื่องยนต์ วัสดุที่ใช้ทำบ่า  และ ตัววาล์ว ออกแบบ มาดี ทำให้ ใช้งานได้ค่อนข้างทนทานดีเหมือนกัน ลูกค้า  camry 2.0 ที่ติดตั้งใช้งานไป  ยังไม่เคยเจอ ลูกค้าคันไหน วาล์วยันเลยครับ บางคัน วิ่งเป็น แสน กม. ก็ยังปกติดีครับ

ข้อดีของ เครื่องยนต์ toyota รุ่นนี้ คือ  รอบเดินเบา ค่อนข้างนิ่งมาก แอร์ตัดต่อ ไม่มีสั่น หรือ กระพรือ  ซึ่ง จะต่าง กับตัว accord  เครื่องยนต์  2.0  ค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องรอบเดินเบา  จะไม่เรียบนิ่ง เท่า กับ  camry ครับ

แต่ หากขับเร็ว จริงๆ อาการวาล์วยัน น่าจะเกิดในย่าน ประมาณ  7-80,000 km ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 21, 2012, 05:30:53 pm »

คุณเจครับ

จาก
เครื่องยนต์ honda ถ้าเป็น ตระกูล  k20   steam  crv g 2  civic fd 2.0      crv g3  2.4  ปัญหา ของเครื่องยนต์บล๊อกนี้คือ   เป็นเครื่องยนต์รอบจัด เน้นกำลังที่รอบสูง ย่าน vtec เปิด เรียกกำลังได้เพิ่ม   ข้อเสีย คือ  บ่าวาล์ว ของเครื่องยนต์ ตระกูลนี้ ยัง นิ่ม ทนแก๊สได้ไม่ดีนัก

แอคคอร์ด ปี2005 2.4i  อยู่ในเคสนี้ใช่ไหมครับ  คือ บ่าวาวล์ ไม่ทนทาน แต่ถ้าติดแก๊สแล้วจะต้องปรับแต่ง ประมาณ 50000 โล  ใช่ไหมครับ

ขอบคุณครับ
เครื่องยนต์ honda  บล๊อก k  ทุกตัว  บ่าวาล์ว  จะเป็นลักษณะเดียวกันทั้งหมด ครับ  แต่  การ ป้องกัน ก็ทำการ ปรับตั้ง วาล์ว ทุก 40,000 km  ก็ใช้งานได้ปกติ เหมือนเดิม ครับ

คือ  เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ ปัญหาวาล์วยัน  เกิดขึ้นแน่นอน แต่ สามารถ ปรับตั้ง วาล์ว และใช้งานต่อได้ปกติ   ส่วน จะปรับแต่ง ได้กี่ครั้ง  ขึ้น อยู่กับ สภาพ การสึกหรอของ แต่ละคัน ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
mailwalker
Newbie
*
กระทู้: 3


« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 23, 2012, 08:33:49 pm »

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับคุณเจ เป็นข้อมูลที่ดีมากๆจริงๆครับ ตอนนี้ผมตัดสินใจได้แล้วว่าคงมาทางtoyotaละครับ แต่คงอยู่เเถวAltis 1.6-1.8ประมาณนี้ เดียวรอจังหวะก่อน 1-2ปี ไว้ยังไงเมื่อได้รถ ร้านคุณเจจะเป็นอันดับแรกที่ผมจะเอารถเข้าไปติดแก็สนะครับ
ฝากตัวไว้ล่วงหน้าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 23, 2012, 08:44:59 pm »

1-2. ปีไม่นานครับ

ซื้อรถหากเป็นป้ายแดงต้องตัดสินใจดีๆครับ

เพราะออกป้ายแดงมา หากใช้แล้วไม่ถูกใจ จะขายต่อจะขาดทุนมากครับ

ต่างจากรถมือสอง ตอนซื้อมาราคาจะหล่นจากป้ายแดงมาแล้ว. ดังนั้นหากใช้ไม่นานแล้วขายต่อก็ไม่ขาดทุนมากนักครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
CHAINAT
Full Member
***
กระทู้: 177


« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 14, 2012, 05:08:30 pm »

เครื่องยนต์ honda  บล๊อก k  ทุกตัว  บ่าวาล์ว  จะเป็นลักษณะเดียวกันทั้งหมด ครับ  แต่  การ ป้องกัน ก็ทำการ ปรับตั้ง วาล์ว ทุก 40,000 km  ก็ใช้งานได้ปกติ เหมือนเดิม ครับ

คือ  เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ ปัญหาวาล์วยัน  เกิดขึ้นแน่นอน แต่ สามารถ ปรับตั้ง วาล์ว และใช้งานต่อได้ปกติ   ส่วน จะปรับแต่ง ได้กี่ครั้ง  ขึ้น อยู่กับ สภาพ การสึกหรอของ แต่ละคัน ครับ

บล๊อก k  ทุกตัว  บ่าวาล์ว  จะเป็นลักษณะเดียวกันทั้งหมด ครับ  แต่  การ ป้องกัน ก็ทำการ ปรับตั้ง วาล์ว ทุก 40,000 km
แล้วเครื่องยนต์ บล๊อก  r18  r20 fd 1.8   crv g3  accord 2.0 การ ป้องกัน ก็ทำการ ปรับตั้ง วาล์ว   มากกว่า   40,000 km  ได้ใช่ไหมครับ  หรือว่า ปรับตั้ง วาล์ว ทุก 40,000 km  พอพอกันครับ 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 14, 2012, 08:07:02 pm »

ปรับตั้ง ทุก 40,000 km พอๆ กัน ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF DK THEME: deruni
Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!

J AUTOGAS

34/38 ซ.แจ้งวัฒนะ 43 หมู่ที่1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร 02-5744-313  เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00น.

สายด่วนลูกค้าทางร้าน

โทรได้ตลอดไม่เว้นวันหยุด

phone084