jautogas

ท้าวความก่อน 

คือ ก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผมจะมีรถยนต์เป็นของตัวนี้ ผมเคยใช้ มอเตอร์ไซต์มาก่อน พอดีเมื่อก่อนทำงานอู่ซ่อมรถ มีวันหนึ่ง ลูกค้าซื้อน้ำมันเครื่อง mobil 1 มาเติมรถยนต์แล้วเหลือเศษ ประมาณ 1 ลิตร  ผมก็เลยเอามาลองเติม มอเตอร์ไซต์แล้ว  ขับใช้งานลองดู ก็สัมผัสได้ว่า  เมื่อเติมน้ำมันเครื่องตัวนี้เข้าไป  ไม่ว่า เครื่องยนต์จะเย็น  หรือ จะร้อน  เครื่องยนต์ยังทำงานให้อัตราเร่งที่ดี ตลอด หรือ ลื่นตลอดทุกครั้งที่ขับขี่   ความรู้สึก ตอนนี้ ผมเชื่อเลยว่า  น้ำมันเครื่อง mobil 1 มันดีจริงๆ

พอมามีรถยนต์ส่วนตัวคันแรก ก็เป็นรถ มือสอง คิดว่าเครื่องยนต์เก่าแล้ว ไม่จำเป็นตัองเติม น้ำมันเครื่อง ดีๆ แบบ  mobil 1 เพราะอย่างไร ก็คงให้ผล ต่างมากไม่ได้  ผลคือ ไม่ได้ลองใช้  ก็ใช้น้ำมันเครื่อง แบบทั่วไป  ถึง สังเคราะห์ ก็สุด แค่ สังเคราะห์ ปตท.

มารถใหม่ คันแรก civic fd 1.8 คันนี้ ซื้อมา วิ่งประมาณ พันกว่า กม. ก็จับลอง mobil 1 เลย  ตอนนั้น กลัว เรื่อง น้ำมันเครื่องปลอมมาก เลยตัดสินใจ ซื้อใน ปั้ม  เอสโซ่เลย  fd. 1.8 ใช้ ประมาณ 4 ลิตร ซื้อมา ตก 2,600 บาท ได้

เมื่อใส่  กับ fd. 1.8 ก็คาดหลังเรื่อง ความลื่น  ความไหล ต่อเนื่องมาก  แต่เนื่องจาก fd 1.8 อาจจะเครื่องยนต์มีปัญหา  หรืออย่างไร ก็ไม่ทราบ เติม mobil 1 เข้าไป  จะทดสอบหาความลื่น  ไหลต่อเนื่อง ก็สัมผัส ความแตกต่างกันไม่ค่อยได้  ตอนหลัง มี ผ่าเครื่อง  เคลมเสื้อสูบ (เสียงดังต๊อกๆ ) อาการ วิ่งอื่ด วิ่งไม่ลื่น ก็ยังสรุปไม่ได้ ว่าเกิดจากอะไร หรือ อาจคิดไปเอง  หรือ อาจเกิดจากตัวเครื่องยนต์เอง   ใช้ไป ประมาณ 40,000 km. ก็ขายไป

ตอนนี้ ความคิดผม กับเรื่อง น้ำมันเครื่อง mobil 1 กับ รถยนต์ ผมก็คิดในใจว่า มันคงไม่ได้ให้ ความแตกต่างจากน้ำมันเครื่องยนต์ทั่วๆไป เป็นแน่ คือ หาความต่างไม่ได้  แพงเปล่าๆ  หรือ ไม่ลื่นจริง  หรือ ลื่น ก็ลื่นเท่าที่ สัมผัสได้ ทั่วไป  ลื่นมากกว่านี้  คงไม่ได้มีเพิ่มมาจากตัวน้ำมันเครื่องหรอก

จนมาซื้อรถใหม่ toyota camry 2.5G พอซื้อมา เรื่องน้ำมันเครื่อง ก็ยังไม่หวนกลับไปคิดถึง mobil 1 เพราะคิดว่าอย่างไร ก็คงไม่ต่าง เล่นสังเคราะห์ 0 ไปเลย ดีกว่า ชัวร์กว่า  และท้ายสุด คิดว่า สังเคราะห์ศูนย์ เป็นน้ำมันเครื่องยนต์ที่เบอร์หนืดเกินไป เลยลองเป็น  น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ของ ECO CAR กันไปเลย คือ เบอร์  0w-20 คือคิดว่า  น้ำมันเครื่องเบอร์ที่มันหนืดไป มันอาจทำให้อัตราเร่ง ไม่ลื่น ใส่เป็นเบอร์ ใส น่าจะให้อัตราเร่ง ที่ดีกว่า

ซึ่งก็ลองมาแล้ว  ผลที่ได้ ถามว่าลื่นมั้ย ก็ยังตอบไม่ได้ว่า ว่าลื่นขึ้น  คือ มันก็เหมือนเดิมๆ เหมือนกับน้ำมันเครื่องยนต์ทั่วๆไป  ไม่ได้ขับแล้วลื่นขึ้นกว่าเดิม แบบสัมผัสได้

http://camry2012club.com/webboard/index.php/topic,7921.msg131511.html#msg131511

คือ แปลกใจรถตนเองมาช่วงหนึ่งแล้ว  สังเกตได้ว่าหลังจากเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งล่าสุด  เปลี่ยนที่ศูนย์ Toyota tbs บางนา  เลือกเป็น สังเคราะห์ 100% ow-40  หลังเปลี่ยนถ่าย ช่วงสัปดาห์แรก รู้สึกลื่นดี  แต่พอออกต่างจังหวัด ไป กลับ ประมาณ 500 กม. รู้สึกรถเริ่มอืดๆ ลง

มานั่งหาข้อมูล เกี่ยวกับสเป็คของเครื่องยนต์ มาเจอว่า  สเป็คน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ รุ่นนี้ กำหนดไว้เป็น  0w-20 เลยมาถามเพื่อนๆว่า มีอืดลงบ้างหรือไม่ครับ


สเป็ค 2ar-fe  2,500 cc.

http://www.toyota.com/t3Portal/document/om/OM33840U/pdf/sec_06-01.pdf

ลองเติมมาเรียบร้อยแล้วครับ  0w-20  ใช้แบบ ตรงสเป็คที่กำหนด ที่เมืองนอก   ลื่นจริง  ลื่นกว่าตอนออกป้ายแดง เสียอีก


สังเกตอาการมาตั้งแต่ ตอนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรกแล้ว   ถ่ายของเดิมติดรถออกไป ตอนประมาณ 8-9,000 km.  แรก  ช่วงนั้น  ตะลอน เหนือ  เชียงราย  แล้ว  ต่อด้วย ใต้ สุราษ อีก  ขับลื่นดี  happy มาก

พอถ่าย น้ำมันเครื่อง ครั้งแรก แจ้งศูนย์เลย ขอ สังเคราะห์  100 เปอร์เซ็นต์   ศูนย์ จัด 5w-40 มา  ชักเริ่มหนืดๆ

ถ่าย ครั้ง 2 เปลี่ยนที่ TBS บางนา   หลังเปลี่ยน  วิ่งลื่น อยู่ได้ไม่นาน เกิน 4-500 km. เริ่ม หนืดอีกแล้ว


เริ่มแอะใจ  กับ ตัวน้ำมันเครื่อง   อยากรู้  สเป็ค เมืองนอก  เขาใช้ กันอย่างไร   อ่านสเป็ค เมืองนอกเขา บอก  0w-20 เท่านั้น

โทรไปถาม toyota  ว่ามีมั้ย   น้ำมันเครื่อง ตัวที่ตรง สเป็ค  และเป็น สังเคราะห์ร้อยเปอร์เซ็นต์   toyota บอก มีแต่  5w-40 ที่เป็นสังเคราะห์ตัวเดียว   ถ้าเบอร์ต่ำ   จะเป็น กึง   5w-30    ผมก็ถามว่า   ตอนออกจากโชว์รูม เป็น น้ำมันเครื่องตัวไหน   toyota บอก ใส่ กึ่งสังเคราะห์มาให้   ผมก็นึกในใจ   เราคิดว่า รถระดับ camry น่าจะใส่ สังเคราะห์มาให้จากโรงงาน    ที่แท้ ใส่กึ่ง มานี่เอง  พอเรามาเปลี่ยนถ่ายตอนหลัง  ใส่ใหม่ เป็น  สังเคราะห์ เบอร์ 40  มัน ก็ต้องหนืดกว่าเดิมขึ้นไปอีก   เครื่องยนต์ ก็หมุนได้ยากขึ้น  อัตราเร่ง ก็ดรอป ลง


ลองมาแล้วครับ ระยะทาง เกือบ 1,000 km. กับ  0w-20   ทั้งขับ ปกติ  ทั้ง คิกดาวน์  เร่งแซง  กลับ มาเช็ค ระดับน้ำมันเครื่อง  ไม่มียุบ  มีพร่อง  มีแต่ ลื่น  ขับ สนุกอย่างที่ควรจะเป็น ครับ


ส่วน จะเป็น  สเป็ค สำหรับเมืองหนาว  หรือ เมืองร้อน ผมว่าไม่เกี่ยวกัน  เพราะ ตัวน้ำมัน เครื่องเขียนกำหนดย่าน อุณหภูมิไว้ ตั้งแต่   0-38 องศาเซลเซียส 

และ หากน้ำมันเครื่องใส เกินไป  ขับใช้งาน ย่อมทำให้ระดับ น้ำมันเครื่อง  พร่องลง  แบบสังเกตได้ครับ

จนล่าสุด เจอกับลูกค้าเอารถ new altis 2014 ป้ายแดงมาติดตั้งแก๊ส ทางลูกค้ายืนยันเลยว่า ใช้ mobil 1 มาตลอด  ลื่นกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป ชัดเจน เจอแบบนี้เข้าไป  ผมก็ลังเล  ต้องลอง mobil 1 อีกเที่ยว ว่ามันลื่น แบบชัดเจนมั้ย


ซึ่งล่าสุด เพิ่งไปเปลี่ยนถ่ายมา mobil 1   5w-30  กับ การวิ่งใช้งานมา ระยะหนึ่งเแล้ว   ไปกลับ  กทม.   โคราช ไป 2 เที่ยว สัมผัสได้ชัดเจนครับ  ว่าลื่นขึ้นกว่าเดิมชัดเจน   และ ลื่นต่อเนื่อง ตลอดเวลา ทั้งตอนเช้า  และ ตอนขับมานานๆ  ก็ยังให้อัตราเร่งที่่ ลื่นต่อเนื่องตลอดครับ


ดังนั้นต่อไป  หากมีใครถาม เกี่ยวกับ เรื่องน้ำมันเครื่อง  ผมแนะนำ mobil 1 ไปเลยนะครับ  เพราะลองมาแล้ว  กับเครื่องยนต์ สภาพสมบูรณ์ เที่ยวนี้ เครื่องยนต์ทำงานลื่น ให้อัตราเร่ง ที่ดี ตลอด  ขับสนุกขึ้น แบบรู้สึกได้ ครับ

mobil 1   5w-30   พี่ไปถ่าย ที่ไหนครับ

ศูนย์โตต้า ยอมให้ เอาน้ำเครื่องข้างนอก เข้าไปได้ด้วยเหรอ ครับ

ผมซื้อข้างนอกแล้วหิ้วไปให้ ศูนย์ TBS บางนาของ toyota เปลี่ยนถ่ายให้เลยครับ

รถคันนี้ติดแก๊สป่าวคับ

ติดครับ

เกรดน้ำมันเครื่อง  3-4 เกรด  ธรรมดา, กึ่ง, สังเคราะห์  หลังๆๆ super สังเคราะห์  (คงใช้กับเครื่องบิน)
เบอร์น้ำมัน ความข้น/ใสของเนื้อน้ำมัน  ใช้ตรงตามที่กำหนดดีสุด   30 / 40 / 50   หลังๆ 20 eco
รถใหม่ๆๆ เครื่องแน่นๆ  ใส่ 30 สบาย  ใช้งานมาเกินแสน  เลือกใช้ได้ 30 / 40

ส่วนตัวผมใช้สังเคราะห์เบอร์  5w-30 work สุด  ลอง 40 แล้วรู้สึกหนืดไปหน่อย ช่วงออกตัว  แต่ปลายไหลดี
สำหรับยี่ห้อ  ก็ลองใช้ไปเรื่อยๆๆ  Mobil1 / Vavoline / PTT / บางจาก / elf 
ซึ่งตัวหลังประทับใจ  เพราะราคาถูกดี  4+1 ลิตร  ราคา 1100 บาท  ใช้ลื่นดี