jautogas

สรุปว่า สายจูนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อ ECU GAS โดยใช้ไดรเวอร์ PL2303_Prolific_DriverInstaller_v1.5.0 บนระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้ครับ แต่ต้องลงไดรเวอร์ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยเสียบสายจูน USB เข้าไปเครื่อง Notebook ก็จะติดต่อได้ตามปกติครับ

แต่สงสัยนิดนึงครับ ว่าทีแรก ตรงการเชื่อมต่อ OBD ครั้งแรกที่เข้ามาตรวจสอบแจ้งว่าไม่ได้เชื่อมต่อ ผมต้องทำการเปลี่ยนใหม่ให้เป็นการเชื่อมต่อแทนครับ ส่วนช่องการอ่านปรับค่าจาก OBD ติ๊กถูกแล้วเมื่อเปิดใหม่ก็จะเป็นอย่างที่เห็นครับ

หน้า Petrol Panal ไม่แน่ใจว่าปกติหรือไม่ครับ

อันนี้หน้า Gas Panel ครับ...........

หน้า สวิทช์ ครับ

กับ new. City. Civic. กับOscar obd can รุ่นใช้กล่องแปลง เป็นแบบนี้ปกติครับ

การเชื่อมต่อ obd can. ยังทำงานตามปกติครับ

ส่วนหน้าอื่นๆ ก็ค่าตามปกติครับ

สุดท้ายหน้า การปรับตั้งครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า OK หรือป่าว แต่วันแรกที่ ต่อกล่องเสร็จ แรงเห็นๆครับ แบบว่าไม่เหมือนก่อนติดค่อนข้างที่จากลากรอบไปค่อนข้างเยอะก่อนจะสับเกียร์ต่อไป หลังติดเหมือนรอบมาไว เกียร์สับไวขึ้นนะครับ จากรูปกราฟ ไม่แน่ใจว่าต้องทำการปรับจูนอะไรเพิ่มบ้างอีกหรือไม่ครับ ดูหนาไปหรือไม่อย่างไรครับ ส่วนเมนูอื่นๆ เช่นตาราง หรือ Advance ติด Password และต้องทำการ set ค่าเพิ่มหรือไม่ อีกอย่างหลังทำการตรวจสอบ ไม่ได้ทำการ Save ค่าใดๆ  เมื่อเราทำการเชื่อมต่อเข้ากับ ECU GAS ใหม่อีกรอบ จะต้องทำการติ๊กค่า " การเชื่อมต่อ " ( OBD ) ใหม่ทุกครั้งหรือไม่ครับ แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่หลุดการเชื่อมต่อ OBD ครับ

ขอบคุณมากครับ

ช่องการเชื่อมต่อ obd can. ถ้ายังขึ้นคำว่าเชื่อมต่ออยู่. แสดงว่าระบบยังเชื่อมต่ออยู่ตามปกติ ครับ

กับ ตระกูลHonda. ต่อ obd can ยอมรับว่าทำให้รถวิ่งดีขึ้นจริงๆครับ

พูดง่ายๆ. กล่องแก๊ส. Obd. Can. ไปปรับแต่งการจ่ายเชื้อเพลิงของกล่องรถใหม่ จากเดิมน้ำมันโรงงานจูนมา ออกแนวหนาในตอนเดินเบา. พอวิ่งเรื่อยๆแล้วออกแนวบาง

เจ้ากล่อง obd. จับการจูนให้ใหม่ ให้เป็นแบบสมบูรณ์ในทุกย่าน. รถเลยวิ่งดีขึนกว่าเดิมครับ

Civic. Fd ผมก็ลองมาหลายกล่องแก๊ส ช่วงก่อนหน้านี้ใส่ brc

มาตอนหลังใส่กล่อง obd can เปรียบเทียบกัน ยอมรับว่าตัว obd. Can. แบบเชื่อม can. ได้วิ่งดีกว่าจริงๆครับ

เรื่องHonda. I-vtec. ใส่กล่องแปลง obd can.  หรือ เชื่อม can ได้ แล้ววิ่งดีขึ้นกว่าเดิม ตรงนี้ส่วนมากผมไม่ค่อย มาโพสแจ้งกันมากนัก เพราะเป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัว. ไม่มีผลวัดมาแสดง

คันที่ได้ติดตั้งจึงจะสัมผัสได้ครับ

มายืนยันว่าติดกล่องแล้ววิ่งดีขึ้นเห็นๆครับ(ขับมันส์มาก)

หลังจากที่เราติ๊กถูกในช่องเชื่อมต่อ OBD  เป็น " เชื่อมต่อ " แล้วต้องทำการ SAVE ค่าหรือไม่อย่างไรครับ เพราะอย่างที่บอกช่วงแรกที่ทำการตรวจสอบ จะไม่ขึ้นว่า เชื่อมต่อ น่ะครับ..........เกรงว่าจะหลุดการเชื่อมต่อหรือไม่ครับ

ขอขอบคุณมากครับ

ไม่ต้องเซฟ ครับ โปรแกรมจะจำให้อัตโนมัติ ครับ

ค่า อื่นๆ ที่เราปรับตั้งไว้ จะมีอยู่เหมือนเดิม  ต่างกันตรง เครื่องหมาย ตรง ติ๊กถูก  จะหายไป ตอนเปิดขึ้นมาใหม่ แต่ ทุกอย่างที่ตั้งไว้  ก็จะทำงาน ตามค่าเดิมครับ

ลองเช็คใหม่อีกรอบ คราวนี้ไม่ต้องเลือกแล้วครับ โปรแกรม detec ได้เลยครับ

แบบนี้ปกติแล้วครับ

ผมลองลดค่าตัวคูณดูนิดหน่อย กราฟดูเหมือนไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมเลยนะครับ หรือว่าต้องวิ่งดูสักระยะหรือไม่ครับ

ขอขอบคุณมากครับ

อ้อ!.......ลืมไปอีกนิดครับ ที่รอบเดินเบาค่า Shortterm บางครั้งก็ติดลบ บางครั้งก็บวก ตามรูปเนี่ยไม่ทราบว่ามันแกว่งมากเกินไปหรือไม่ครับ หรือว่าเป็นปกติครับ

คือ กล่องobd can. พยามดึงค่าเข้า 0 ส่วนกล่องรถพยามดึงค่าให้เป็น. บวก เพื่อประหยัดน้ำมัน  ดังนั้น ค่าจึงแกว่งไปมา อย่างนี้เป็นปกติครับ
(ปล. เป็นเฉพาะHonda I-vtec ครับ)

Toyota. จะไม่เป็นอย่างนี้ครับ

มิน่า.........การขับขี่ถึงได้เปลี่ยนไป จากขับน้ำมันเป็น Honda แต่พอขับแก๊ส กลายเป็น Vios......555

สรุป ชุด obd. Can. ไปจูนกล่องเครื่องยนต์Honda  ให้เปลี่ยนลักษณะการจ่ายเชื้อเพลิงใหม่ จากจ่ายบางเหมือนน้ำมันเป็นจ่ายสมบูรณ์เหมือนรถทั่วไปแทน รถเลยให้อัตราเร่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมครับ

โปนแกรมเวอร์ชั่นไรครับ ทำไมหน้าตาไม่เหมือนเหมือนกับที่ผม version 1.07

เป็น oscar obd can ตัวเก่า ครับ

เป็น EuropeGas V2.12 ครับ ใช้กับ ECU GAS oscar n obd can ตัวเก่าอ่ะคับ..........

ถาม ช่างนิดนึงคับว่า ถ้าเราจะ set ไม่ให้ Short term แกว่งไม่ให้เกิน + - 5% เหมือนที่ให้ความเห็นไว้ ต้อง set ตรงไหนเพิ่มหรือไม่อย่างไรครับ

ขอขอบคุณมากครับ

ตรงที่ให้. ติ๊กถูก ด้านขวามือ.  ข้างในจะมีให้ปรับตั้ง. แต่จะล๊อกอยู่หรือเปล่าตรงนี้ผมไม่เคยสังเกตครับ

ใช่ค่าตามรูปที่วงไว้หรือไม่ครับ แล้วอีกอย่างหากลดลงเหลือ 5% แล้ว สำหรับ Honda จะทำให้วิ่งไม่ค่อยออกหรือไม่ครับ......อ้อ อีกนิด ตรงตัวคูณ เวลาการฉีด หากเราปรับลด/เพิ่ม เส้นสีฟ้า ตามเวลาการฉีด แล้ว ต้องกด คำนวณการปรับแต่งใหม่ หรือไม่ครับ

ขอบคุณมากครับ

มาช่วยตอบเท่าที่ผมเคยลองนะครับ
- ถ้าปรับเพิ่มการจ่ายแก๊ส   พอปรับเสร็จต้องลบกราฟแก๊สเส้นเก่าออกด้วยครับแล้วสร้างใหม่(วิ่งเก็บค่าใหม่)   เพราะเส้นกราฟเดิมจะไม่ขยับให้ครับ   แต่ในความจริงคือกล่อง ECU ก็ปรับการจ่ายแก๊สแล้วแต่ทำไมเส้นกราฟถึงไม่ขยับตามอันนี้ก็สงสัยอยู่ครับ
- ส่วนถ้าปรับการจ่ายแก๊สในบางช่วงน้อยลง   พอปรับเสร็จเส้นกราฟแก๊สจะค่อยๆขยับให้ครับ   

ขอบคุณ ท่าน CrystalCC มากครับชอบกราฟ ท่านจริงๆครับ นึกว่าจะไม่มาเยี่ยมเยือนบอร์ดซะแล้ว รบกวนเช็ค PM ด้วยนะครับ

เรียนคุณ Goldwing
     พูดคุยในนี้ดีกว่าครับเผื่อท่านอื่นผ่านมาเห็นจะได้ทราบด้วยครับ   ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ
- อัตราการกินแก๊สในเมืองของผมนะครับเอาแบบรถติดหนักๆ ก็ได้ 9โล/ลิตรครับหรือ ประมาณกิโลละ 1.2-1.3 บาท
- รถติดบ้างไม่ติดบ้างเฉลี่ย 10 กิโล/ลิตรครับ หรือกิโลละ   1 - 1.1+ บาท
- ขับต่างจังหวัดจะได้เฉลี่ย 13+โลต่อลิตรหรือกิโลละ 90 สตางค์ (ความเร็ว 120-140 กม.)
ราคาแก๊ส 12.20 บาทต่อลิตร
     จากที่ดูกราฟท่านก็สวยแล้วครับ  ถ้ายังออกตัวอืดอยู่แนะนำดึงเส้นจุดที่ 1-3 ขึ้นอีก 2 จึ๊กครับ   ถ้าช่วงเร่งแซงไม่ทันใจก็เข้าไปเพิ่มการจ่ายแก๊สในหน้า ตารางอ่ะครับของผมจะใส่ ช่วง 2000-5000 รอบที่ 4% เท่ากันหมด   ไว้พรุ่งนี้มาลงรูปให้ดูนะครับ   อ้อ อย่าลืมเปลี่ยนกรองอากาศทุก 1 หมื่นโลด้วยนะครับจะทำให้ประหยัดขึ้น  อัตราเร่งดีขึ้น  น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ความหนืด 30 ครับรับรองไหลลื่น

ปล.1.ขออภัยถ้ารายละเอียดที่ผมแนะนำมาท่านทราบแล้ว
    2.ถ้าได้ค่าที่พอใจแล้วอย่าไปปรับเพิ่มนะครับ   ไม่งั้นจะเป็นแบบผมแรกๆ  จูนแทบจะทุกวัน - -a
    3.อ้อ  ใช้วิชาที่ป้าบีบอกมาด้วยนะครับ  ปล่อยไหลๆประหยัดดี   

     

ของผมออกเปลืองไปหน่อยนะครับ เลยอยากลดการฉีดแก๊สลงอีกสักนิด ให้กราฟแก๊สชิดกับกราฟน้ำมันแต่ยังคงสูงกว่าน้ำมันอยู่  และอีกอย่าง ค่า short term ตอนรอบเดินเบาดูแกว่งมาเกินไป อยู่ประมาณ -10 ถึง + 8 เห็นช่างเคยลงความเห็นว่าสามารถปรับให้อยู่ในช่วง + - 5% ได้.............

รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอขอบคุณมากครับ

ต้องปรับนิสัยการขับขี่อ่ะครับมีผลอย่างมาก   อย่างรถติดๆจะปล่อยไหลเอาครับไม่เหยียบคันเร่ง   เหยียบคันเร่งแล้วเบรคบ่อยๆ เปลืองครับ   อีกอย่างผมไม่ค่อยได้คลิกดาวน์ด้วยครับนับครั้งได้เลยในแต่ละวัน    และของผมเส้นกราฟลอยมากกว่าคุณ Goldwingอีกครับ   อย่างที่บอกครับถ้าปรับค่าไว้ดีแล้วอย่าไปปรับเลยครับเดี๋ยวเพี้ยนแล้วยาวครับ

ใช่ตรงส่วนที่วงหรือไม่ครับ อีกอย่างเมื่อเราปรับค่าตัวคูณเวลาลงในช่วงที่ต้องการแล้ว ต้องนำรถไปวิ่งแก๊สใหม่หรือไม่ครับ แล้วต้องลบกราฟแก๊สใหม่ด้วยมั๊ยครับ

ขอขอบคุณมากครับ

ใช่ครับตามที่วงไว้   ไม่ต้องเก็บค่าใหม่ครับ   ปรับแล้วลองดูในหน้า OBD จะติดลบน้อยลงในช่วงเดินเบา

ขอโทษคุณ Goldwing ด้วยครับจากตารางที่บอกเลข 2 ต้องเป็นเลข 4 แถวแรกค่า - 2 ครับดูตามรูปเลยครับ
- กราฟของผมสร้างจากทางวิ่งไป-กลับที่ทำงานนะครับอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

ขอบคุณท่าน CrystalCC มากครับสำหรับข้อมูล พอดีเลยดูๆจากบอร์ดเก่าๆ เลยทำการปรับลดค่าตัวคูณเวลาการฉีดลงใหม่ จากนั้นทำการปรับ map ช่วยอีกทีแต่ไม่ทันได้ดูของ ท่าน CrystalCC ที่ลงไว้ครับ ดูจากการจูนที่เคยลงกันไว้การปรับจูนค่ารอบเดินเบา โดยเปรียบเทียบค่า T-On ทั้งตอนเป็นน้ำมันและตอนปรับเปลี่ยนเป็นแก๊สครับ ซึ่งเท่าที่สังเกตดูช่วงที่เป็นแก๊สจะต่ำกว่าเป็นน้ำมันอยู่ คาดว่ารอบเดินเบาหนาไปซึ่งก็มีส่วนครับ เพราะก่อนหน้านี้จะแกว่งอยู่ช่วง -7 ถึง - 10 เลยปรับ map ให้ติดลบ% ส่วนเท่าไหร่นั้นอันนี้ก็มั่วๆเอาเหมือนกันครับ แต่ให้ได้ค่าเท่ากับตอนเป็นน้ำมัน จากนั้นผมก็ทำการลบกราฟแก๊สใหม่ครับ แล้วลองดูใหม่เห็นว่าเส้นเริ่มเป็นไปตามที่เราต้องการ จากนั้นนำรถไปวิ่ง 1 รอบ ปากซอยถึงท้ายซอย พอกลับมาเช็คกราฟใหม่ แจ่มเลยครับ และเท่าที่สังเกตช่วงการขับขี่จะเปลี่ยนไป ไม่ดุดันเหมือนเมื่อก่อน ออกแนวนุ่มๆเนียนๆ แต่ไม่อืดนะครับ ลองดูจากกราฟครับ หากมีบางอย่างผิดพลาดประการใด รบกวนท่าน ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ.........

อันนี้เป็น Map ที่ทำการแก้ไขก็มั่วๆเอานะครับ อย่างไรรบกวนช่างช่วยแนะนำด้วยนะครับ

กลับไปตรวจสอบค่า Short term อีกครั้งพบว่าเป็นบวก....แล้วก็นิ่งไม่ค่อยมีการแกว่งไปทางลบครับ ไม่แน่ใจว่าปกติหรือไม่อย่างไร ส่วนต่อไปก็คงปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปสักพัก แล้วค่อยมาจับอัตราสิ้นเปลืองใหม่ แล้วจะมา Update ให้ทราบครับ

ขอบคุณครับ

มา Update ต่อจากคราวที่แล้วครับ หลังจากทำการปรับลดกราฟลงแล้ว จากเดิม อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 7.8กม/ลิตร แก๊ส จะอยู่ประมาณ 8.87 กม/ลิตร แก๊ส ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม/ชม. ส่วนมากจะวิ่งในซอยซะมากไม่ได้ใช้ความเร็วมากสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ ถังแรกๆที่เพิ่งติดใหม่ๆก็ใกล้เคียงกัน ผมว่าน่าจะเป็นปกติเมื่อเทียบจากเดิมที่ยังไม่ได้ต่อ OBD นะครับ แต่สิ่งที่แตกต่างชัดๆน่าจะเป็นเรื่องของ รอบที่ไม่ต้องรอเหมือนก่อน ค่อนข้างเกียร์จะสับไวขึ้น แต่ก็มีอีกอย่างที่ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะหลังจากที่ทำการปรับตั้งวาล์วใหม่แล้วไม่รู้ว่าทาง ศูนย์ Honda มีการปรับ ECU ของรถด้วยหรือไม่ คงต้องรอผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ข้อมูลชุดแก๊ส
 - Honda New City
 - ECU ( Europe Gas Oscar OBD CAN )
 - หัวฉีด Magic Jet 2 โอห์ม ( ผ่านการตรวจสอบแล้วจากทางสำนัก )
 - หม้อต้ม Magic III
 - ถังแก๊ส แค๊ปซูล 58 ลิตร ( ผอมยาว )
 - ต่อกล่องแปลงสัญญาณรุ่นใหม่ ( ทำการทดสอบ ถอดแบ็ตฯแล้วปกติไม่มีปัญหา ) เพื่อเชื่อมต่อ สัญญาณ OBD จาก ECU รถเพื่อทำการปรับแต่ง

อ้อ!!!........ลืมไปนิดครับ ลองกดคำนวณการปรับแต่งใหม่ ผลที่ได้กราฟเส้นตัวคูณ ดูแปลกๆไม่ค่อยสวย เลยไม่เอา เลยทำการ เรียกค่าที่ตั้งไว้ครั้งหลังสุดกลับมาใหม่ พร้อมทำการลบกราฟแก๊สใหม่อีกครั้ง เพื่อจะดูว่ายังคงใกล้เคียงของเดิมหรือไม่ ผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ.............ส่วนช่วงปลาย ปล่อยให้มันหัวแตกอยู่อย่างน้านน่ะ ดีแล้วเห็นช่างบอกว่า ช่วงนั้นน่าจะอยู่ในช่วงคิ๊กดาวน์มั้งคับ ก็เลยเผื่อไว้กรณีฉุกเฉินคับ ส่วนใหญ่ใช้งานทั่วไปไม่ค่อยได้คิ๊กดาวน์เลยมั้งคับ....แหะๆ

เครื่องยนต์  honda รุ่นใหม่ ที่เป็น เครื่องยนต์แบบ i-vtec  และเป็นเครื่องยนต์ แรงบิดสูง  ชักยาว  บ่าวาล์ว  ค่อนข้างทนแก๊สได้ดี  ถ้าขับเร็ว  อาศัย  ปรับตั้งวาล์วทุก  30,000 km  ก็ใช้งานได้ปกติ  ไม่มีอะไร ต้องกังวล ครับ


รถ honda  หากขับแบบ เรื่อยๆ  ค่อยๆ ไหล  จะขับไม่ค่อยมันส์    ต้อง  กดลึกๆ   ให้ คิกดาวน์  หรือ เซนเกียร์ลง  จะได้  อารมณ์ การขับขี่  ตามที่ วิศวกร คนออกแบบเครื่องยนต์ทำมาครับ


หากเน้นไปเรื่อยๆ  ไหล ๆ  แบบนี้ จะออกอาการอืด    แต่ ได้กล่องแปลง เข้าไป  ทางไกล  ผมว่า มันดึงต่อเนื่อง

fd 1.8 ของผม  สงกรานต์ที่ผ่านมา ขับลงใต้  ขับไปคนเดียว  เดินทางใช้ความเร็ว ได้เต็มที่   ระบบช่วงล่างที่ทำเพิ่ม มี  เปลี่ยนล้อ   เปลี่ยนยาง  และเปลี่ยนโช๊คใหม่   ระดับความเร็ว  100 km/hr  ช่วงล่าง civic fd  สามารถโยกเปลี่ยนแลน  แบบทันที ทันใด  ได้ค่อนข้างดี   ไม่มีสะบัด  หรือ เหวี่ยง เสียการทรงตัวแต่อย่างใด   เครื่องยนต์ ถ้าเดินทางไกล   130-140  รอบเครื่องยนต์ประมาณ  2,600 2,800 ให้แรงบิดดี  มีแรงดึง ต่อเนื่อง   
สรุป  civic  fd  เป็นรถที่ขับเดินทางไกล  ได้ค่อนข้างดีมาก คันหนึ่ง   (ถ้าได้ขับ แบบ สปอต ขับเร็ว  ขับแบบไม่คนนั่งข้างๆ เพราะถ้าขับแบบนี้ คนนั่งข้าง คงจะขอลงระหว่างทาง )

งั้นผมจองคันนี้แหละ.......ค้าบ!!!!!.........555

 ;)