|
หัวข้อ: camry 2.0 6AR-FSE D-4S vs camry 2.5 G เริ่มหัวข้อโดย: CHAINAT ที่ เมษายน 01, 2015, 11:03:16 am สวัสดีครับ ช่างเจ
2AR-FE Dual VVT-i camry 2.5 G vs 6AR-FSE VVT-iW D-4S camry 2.0 1. ตัว 2.0 จะติด lpg ได้ในช่วงไหน จะมีปัญหาภายหลังอะไรไหมครับ 2. ในความเห็นของช่างเจ เกี่ยวกับ 2.0 เห็นว่ายังบ้างครับ 3. หากว่ามี ตัว 2.0 ติด lpg กับช่างเจ คงได้เห็นภาพสวยๆ นะครับ 4. หรือว่า จะต้องโดดไป 2.5 G ครับ เพื่อหลีกเลี่ยงตัว 2.0 5. ขอรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม จากช่างเจ และทุกท่านครับ ขอบคุณครับ CAMRY2015เครื่องยนต์ใหม่ 6AR-FSE VVT-iW D-4S camry 2.0G. 8หัวฉีดแบบลูกผสมD-4S โจทย์ใหม่ของช่างติดแก๊สเมืองไทย http://www.camryclub.com/forum.php?mod=viewthread&tid=18333&extra=page%3D1 หัวข้อ: Re: camry 2.0 6AR-FSE D-4S vs camry 2.5 G เริ่มหัวข้อโดย: J-Autogas ที่ เมษายน 01, 2015, 10:42:11 pm https://www.facebook.com/#!/NewCamry2015
(https://www.facebook.com/#!/NewCamry2015) http://www.allnewmazda3.com/index.php?topic=5037.0 ซึ่งปัญหาที่เกิด คราบเขม่าขึ้น คงเป็นเรื่อง การคลุกเคล้าระหว่างน้ำมันกับอากาศที่ทำได้ไม่ดีพอ (fuel atomization) เพราะ เวลาในการฉีดน้ำมันมีจำกัด ประกอบกับความสามารถของหัวฉีดแบบ solenoid ที่มีการฉีดน้ำมันผิดเพี้ยนสูงในรอบต่ำ แต่ ถ้าเรามาดูเครื่องเบนซินฉีดตรงของ nissan ตั้งแต่ v35 เครื่อง v8 หรือ juke เครื่องเบนซินฉีดตรง พ่วงด้วยเทอร์โบ หรือ เครื่อง hr12 เบนซินฉีดตรง ที่มาพร้อมกับ supercharge นั้น ให้ผมคาดเดา ผมตั้งข้อสังเกตุว่า nissan ที่เป็นเบนซินฉีดตรง หรือ direct injection gasoline นั้น nissan จะใช้ระบบอัดอากาศ เข้ามาช่วยเช่น เพิ่ม เทอร์โบ หรือ supercharge แสดงว่า nissan คงเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเครื่อง เบนซินฉีดตรงเป็นอย่างดีแน่นอนว่า ปัญหา การคลุกเคล้าระหว่าง น้ำมันกับอากาศ เป็นเรื่องที่ตัองระวังในการออกแบบ direct injection ที่มา : http://www.teana-club.com/webboard/index.php?topic=36329.0 หัวข้อ: Re: camry 2.0 6AR-FSE D-4S vs camry 2.5 G เริ่มหัวข้อโดย: CHAINAT ที่ เมษายน 07, 2015, 02:35:50 pm CAMRY 2.0G.ปี2015เครื่องยนต์ใหม่ 6AR-FSE
MAZDA 2 SKYACTIV เครื่องยนต์ เบนซิน 28112556192719[1].jpg MAZDA 3 SKYACTIV MAZDA CX 3 MAZDA CX 5 NISSAN X-TRAIL-2015 FORD FOCUS 2.0 GDI Ti-VCT รถยนต์กลุ่มนี้ สามารถทำการติดตั้งLPG และใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใต้ระบบของ PRINS.VSI.2.0 DI ครับ ติดได้ ใช้งานได้อย่างดี ครับ แผนผังระบบที่ทำการติดตั้งให้กับ CAMRY 2.0G ปี 2015 เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด จาก เนเธอร์แลนด์ ทำการปรับจูนเพียงครั้งเดียวตอนติดตั้ง หลังจากนั้น ตลอดอายุงานไม่มีความจำเป็นต้องปรับจูนอีก เพียงแค่ทำการตรวจเช็คตามระยะทางที่กำหนด(ทุก20000km.หรือปีละครั้ง)ก็เพียงพอแล้ว ครับ http://www.camryclub.com/forum.php?mod=viewthread&tid=18333&extra=&page=2 จะใช้แก๊สได้ดีขนาดไหนกับฉีดตรงครับ ความทนทาน ปัญหาตามมาแก้จบแบบไม่ได้ฉีดตรง หรือว่าจะใช้ได้ดีกว่าอีกครับ หรือว่าไม่ได้ฉีดตรง น่าจะใช้ได้ดีกว่า ในเรื่อง ความทนทาน ปัญหาแก้จบ ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: camry 2.0 6AR-FSE D-4S vs camry 2.5 G เริ่มหัวข้อโดย: J-Autogas ที่ เมษายน 09, 2015, 09:27:34 am เคสที่ว่า ติดได้จบ แล้วใช้ได้ นาน หรือ ใช้ได้ทนหรือไม่ ตรงนี้ยังตอบได้ยากครับ
คือ ตัวเครื่องยนต์ ทนทานแน่นอน เครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ toyota แนวโน้ม พัฒนามาให้ทนทาน และบำรุงรักษาต่ำ ส่วนที่น่ากังวล อยู่ที่ เอาหัวฉีดน้ำมันเบนซิน ไปฉีดแก๊ส lpg ในระบบแก๊ส แบบ ฉีดน้ำ คือ น้ำมันเบนซิน สะอาดแน่นอน แต่ แก๊ส lpg ที่ผมทำแก๊ส มา น้ำแก๊ส lpg เวลาโดนต้น จนร้อน แลกเปลี่ยนความร้อน ไอแก๊สระเหยไปหมดแล้ว ทิ้งขี้แก๊ส คราบตะกอนไว้ในหม้อต้มแก๊สเพียบเลย อันนี้แหละที่ผมกลัวว่า จะทำให้ หัวฉีดน้ำมันเบนซินที่แสนจะบอบ บาง จะอุดตัน ชำรุด และราคาไม่รู้แพงหรือเปล่า กลัวว่า ไม่ทันจะพ้นรับประกันทางร้าน 2 ปี หัวฉีดน้ำมันเบนซิน แบบ GDI ของรถลูกค้าพัง กลัวว่าจะรับค่าซ่อมไม่ไหวครับ ส่วน แบบฉีดไอ ด้านนอก ไม่ได้ฉีดเข้าห้องเผาไหม้ ยี้ห้อ ไหน ก็ติดตั้งได้หมดครับ ไม่มีอะไร ซับซ้อน ครับ |