logo-jauto
หน้าแรกเกี่ยวกับเราราคาติิดตั้งแก๊สรถตัวอย่างราคาอุปกรณ์สาระน่ารู้webboardสอบถาม/แผนที่
เจ ออร์โต้แก๊สFacebook

   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้า: [1]   ลงล่าง
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่รู้จริงอะป่าว เห็นเค้าว่ารถ Honda ที่ไม่มี LTFT ต่อ CAN ได้ก็ไม่มีประโยชน์?  (อ่าน 24573 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
boyd
Newbie
*
กระทู้: 1


« เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 10:35:51 am »

พออ่านไปเจอมาอะครับเห็นเค้ากะลังเถียงกันอยู่ว่ารถ Honda ที่ไม่มีค่า Long Term Fuel Trim ถึงต่อ CAN ได้ก็ไม่ช่วยอะไร จูนแบบละเอียดๆก็พอแล้วครับ รบกวนอาจาร์ยเจด้วยนะครับพอดีของผมก็เป็น Honda เหมือนกันอะครับ

http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=3028.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2015, 11:00:22 am โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 05:06:17 pm »

ecu เครื่องยนต์ ในส่วนระบบการคำนวน การฉีดน้ำมัน ของ honda ออแบบมา   ได้ไม่เหมือนรถยนต์ค่ายอื่น หรือ อย่างโตโยต้า

สังเกต ง่ายๆ  

civic fd รถผมเอง  จูนแก๊สให้หนา ระดับ ค่า short term อยู่ในระดับ -37  %  max สุดของค่า  short term ที่กล่อง ยอมให้จ่ายเชื้อเพลิง ติดลบ ได้

ดับ  เครื่องยนต์ด้วยแก๊ส  แล้ว สตาร์ทใหม่ ด้วย น้ำมัน ระบบน้ำมัน เครื่องยนต์ สตาร์ทติดได้ง่าย  ไม่มีอาการ สตาร์ทติดยาก เนื่องจาก เวลา ของหัวฉีด น้ำมัน ปรับค่า การฉีดใหม่ ให้ แคบลง ตามที่  กล่อง จะพยาม จะลด ลง เมื่อตอน ที่ใช้แก๊ส

แสดงว่า  กล่อง เครื่องยนต์ ของ honda ไม่มีการจำข้อมูล ระยะยาว  จะจำแค่ ข้อมูล ระยะสั้น คือ ค่า short term  อย่างเดียว แล้ว ปรับเอาเดี่ยวนั้น ดับเครื่องยนต์ แล้ว สตาร์ทใหม่ ก็ไม่จำอะไร  ทุกอย่าง กลับมาเหมือนเดิม   กล่อง ควบคุม honda ไม่มี ค่า  long term แน่นอน และ ไม่มีให้อ่าน ด้วย

ภาพจากเว็บ...


* 12.gif (80.21 KB, 426x320 - ดู 6273 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2011, 07:33:03 pm โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 05:13:02 pm »

ต่าง จากโตโยต้า

มีทั้ง  short term และ long  term  ลองจูนให้หนามาก แบบ ติด ลบ 20 % ขึ้นไป  ขับด้วยแก๊ส  แล้วดับเครื่องยนต์

สตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ ด้วย ระบบ น้ำมัน จะมีอาการ สตาร์ทติดยาก ทันที   เพราะ ค่า หัวฉีดน้ำมัน ตอนเปิดตอนสตาร์ทถูกลด เวลาลง ด้วยความจำ  ที่จำไว้ ครั้งที่ ขับด้วยแก๊ส ทำให้ น้ำมันที่ฉีดออกมา น้อยเกินไป ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมา รถคัน นั้นเลย จำเป็นต้อง สตาร์ทเป็น สองครั้ง กว่าจะติด

ค่าที่กล่อง เครื่องยนต์ จำไว้ คือ ค่า long term นั่นเอง

ดังนั้น ของ honda ถึง จะต่อ obd can ได้   ก็จะทำงานได้เพียงบางส่วน ไม่ได้มีผล ทั้งหมด เหมือน toyota ครับ

ทางร้าน  กับ ค่าย honda จึง เน้น จูนหนา  เพื่อ เน้น ความแรง  หรือ  แรงบิด ให้มีออกมา ในระดับ ที่ไกล้ เคียง หรือ มากกว่า ตอนใช้ น้ำมัน ครับ

เมื่อ จูน ให้ออกหนา ตลอดทั้งย่าน  จะทำให้มีความรู้สึก เหมือน ใช้ แก๊ส  lpg แล้ว รถวิ่งดีกว่า น้ำมัน ออกเทน 95 ครับ เพราะแก๊ส  ออกเทน 100 แต่ ถ้ารอบสูง ก็แนะนำให้ตัดเป็นน้ำมัน ดีกว่า  ต่อให้ เครื่องยนต์ ออกแบบมา ระบบดีอย่างไร แต่ถ้าใช้รอบสูง  รอบจัด ความร้อนสูง  อย่างไร บ่าวาล์ว ก็สึกหรอเร็ว กว่าน้ำมัน 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 06:33:25 pm »

ทำไม  toyota ต้องมี short term   และ long term

ทำไม honda  มีแต่ short term

เพราะ

เอา honda ก่อน  เครื่องยนต์ honda รุ่น i-vtec ในช่วงการทำงานของเครื่องยนต์บางช่วง ที่คนขับ ขับด้วยความเร็ว คงที่  ระบบควบคุมเครื่องยนต์ จะปรับโหมด การจ่ายเชื้อเพลิง เข้าสู่ โหมด  เผาไหม้บาง  คือ ค่า  short term มีค่า  บวก ระดับ  10 %  ขึ้นไป  เพื่อเน้น การประหยัดเชื้อเพลิง  และ เครื่องยนต์ ก็ยังคงให้กำลังในระดับปกติ เพราะ เครื่องยนต์ของ honda version นี้ เป็นเครื่องยนต์ แรงบิด สูง หรือ  ไฮทอร์ก นั่นเอง ถึงจะเผาไหม้บาง  กำลังของเครื่องยนต์ ก็ยังไม่ตก ให้กำลังได้ในระดับ ที่สม่ำเสมอ ทำให้ เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ จะประหยัดเชื้อเพลิงมาก เมื่อ ขับด้วยความเร็ว คงที่ และเครื่องยนต์ ก็ไม่เป็นอะไร  เพราะออกแบบชิ้นส่วน เผื่อมาเรียบร้อยแล้ว  บ่าวาล์วแข็งขี้น วาล์วแข็งขึ้น  civic fd ลูกค้า ที่ร้าน วิ่ง ngv ระบบ หัวฉีด ตอนนี้ ไมล์ 170,000 km แล้ว เครื่องยนต์ ยังไม่เป็นอะไร เลย  และ จุดนี้ ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ ไม่มีกำหนด ค่า  long term มา เพราะว่า ในบางช่วง  กล่องเครื่องยนต์ จะปรับโหมด การจ่าย เชื้อเพลิงให้เป็นลักษณะบาง  ค่า short term  ไม่ได้วิ่งเข้า หา 0 %  แต่ วิ่ง บวก ขึ้น กว่า  สิบเปอร์เซ็นต์   ตาม ระบบ ที่วิศวกร ออกแบบเครื่องยนต์ บล๊อกนี้  ออกแบบมา


* main.jpg (48.32 KB, 600x466 - ดู 5916 ครั้ง.)

* other1.jpg (49.56 KB, 500x531 - ดู 5877 ครั้ง.)

* ivtec3.jpg (42.14 KB, 500x446 - ดู 5807 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2011, 07:32:37 pm โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 06:44:02 pm »

ทีนี้ ถ้าเป็น  toyota version  VVT-I  

เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ เป็นเครื่องยนต์ แบบ ระยะชัก กับ  เส้นผ่าน ศูนย์กลางกระบอกสูบเท่ากัน  เรียกว่า เครื่องยนต์ แบบ สแควร์  หรือ เครื่องยนต์ แบบ รอบจัดนั่นเอง สังเกต เวลา ขับความเร็ว  130-140 km/hr รอบเครื่องยนต์ จะค่อนข้างสูง  แต่ ยังให้อัตราเร่งที่ดี  จริงๆ เครื่องยนต์ เบนซินที่ดี ต้องเป็น เครื่องยนต์แบบรอบจัด  ยิ่งหมุนได้ความเร็วรอบ ยิ่งมากขึ้นเท่าไร  แรงม้าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย  ถ้าเป็น เครื่องยนต์ บล๊อกรอบจัด อย่าง 4a-ge 20 valve 1600 cc แต่ เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ สามารถหมุนที่ความเร็วรอบ 8,000 rpm ได้อย่าง สบายๆ ตัวเครื่องยนต์ไม่สั่นสะท้าน แต่อย่างใด  ให้แรงม้า มากถึง 165 hp ขับมันส์มาก

เทียบกับ บล๊อก 2zz-fe ก็มีโครงสร้างเครื่องยนต์ไกล้เคียงกันแต่ การดีไซส์ เครื่องยนต์เน้นใช้งานทั่วไป จึงไม่ได้ ออกแบบมาให้หมุนเร็วมากนัก รอบสูงสุด ที่หมุนได้  ก็ประมาณ 5-6,000 rpm เครื่องยนต์ เริ่มสั่นสะท้าน ให้รู้สึก  

การเป็นเครื่องยนต์แบบ รอบสูง แรงม้ามาที่รอบสูง การจ่ายเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แบบนี้  ก็เลยจ่ายในลักษณะ  จ่ายให้สมบูรณ์ในทุกย่าน การทำงาน  จะบางเกินไป ก็ไม่ได้  เพราะ ถ้าบาง ก็ยิ่งไม่มีแรง  เครื่องยนต์ร้อนจัดอีก

ดังนั้น การออกแบบการฉีด จึงจะ ออกแบบให้ แบบว่า  จะฉีดอย่างไร ก็ได้  แต่ ขอให้สมบูรณ์ ห้าม บาง  ห้ามหนา  จึงเป็นที่มา ของค่า  short term  กับ ค่า long term ที่ต้อง พยาม ปรับให้เข้าหา  ค่า  0 %  อยู่ตลอดเวลา  ถึงความความเร็วนิ่งๆ  สม่ำเสมอ เครื่องยนต์ ก็ยังจ่ายให้ทำงาน สมบูรณ์เหมือนเดิม  เพื่อให้ได้กำลัง  ออกมา ดีตลอดเวลา


* 1ZZ-FE%20USED%20ENGINE%201.jpg (63.68 KB, 400x300 - ดู 8608 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2011, 07:25:05 pm โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 06:50:58 pm »

ดังนั้น ถ้าขับด้วยความเร็ว คงที่  ความเร็วเท่ากัน ระหว่าง  toyota  กับ honda  

honda จะประหยัด น้ำมัน เชื้อเพลิง มากกว่าชัดเจน

แต่ ถ้า วิ่งด้วยความเร็วคงที่  ความเร็วเท่ากัน   ระหว่าง  toyota  กับ honda

toyota ขับแล้ว  อัตราเร่ง ติดเท้า ดี กว่าตลอดเวลา  เพราะ  honda จะเริ่มปรับ เชื้อเพลิง เข้าโหมดจ่ายบาง  กำลังถึงจะมี แต่ มีน้อยกว่า การ จ่ายแบบสมบูรณ์

แต่ ถ้า คิกดาวน์ ลากรอบ วิ่งแข่งกัน  ระหว่าง toyota กับ honda   honda จะเริ่มได้เปรียบ เพราะจะมีระบบ v-tec ช่วยเสริม ในการบรรจุอากาศ เข้าเครื่องยนต์  สามารถ หมุนเครื่องยนต์ที่รอบสูง  ได้ดีกว่า  toyota         toyota รอบปลาย กำลังจะไม่ค่อยดี  เพราะ จำกัดเรื่อง อากาศเข้าเครื่องยนต์  ไม่มี ตัวช่วย


* ivtec2.jpg (37.39 KB, 500x385 - ดู 5777 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2011, 07:34:50 pm โดย เจ คนติดก๊าซหัวฉีด » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 06:55:59 pm »

สรุป  ซื้อรถ เน้นใช้งาน  เดินทางสบาย กำลังติดเท้า ตลอดเวลา    รอบปลาย  อาจแผ่ว  แต่ไม่ได้ไปแข่ง กับ ใคร แบบนี้ ซื้อ toyota ตรงจุด

ถ้าเน้นขับเร็ว  แต่ไม่บ่อย  ชอบลากเครื่องยนต์ รอบสูง   ถ้า ขับเรื่อยๆ 100-120 ไปเรื่อย ช้าๆ  ประหยัดดี  กำลังเดินทางไกล 120-130 km/hr  อาจไม่ติดเท้า  แต่ ถ้า เพิ่มความเร็ว  กดให้หนักขึ้น 130-140 km/hr  รถจะวิ่งได้ดีขึ้น  แต่ ต้องแลก อัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้น 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
goldwing
Full Member
***
กระทู้: 125


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 04:17:00 pm »

อ้างถึง
และ จุดนี้ ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ เครื่องยนต์ บล๊อกนี้ ไม่มีกำหนด ค่า  long term มา เพราะว่า ในบางช่วง  กล่องเครื่องยนต์ จะปรับโหมด การจ่าย เชื้อเพลิงให้เป็นลักษณะบาง  ค่า short term  ไม่ได้วิ่งเข้า หา 0 %  แต่ วิ่ง บวก ขึ้น กว่า  สิบเปอร์เซ็นต์   ตาม ระบบ ที่วิศวกร ออกแบบเครื่องยนต์ บล๊อกนี้  ออกแบบมา

แล้ว new city เป็นแบบเนี้ยด้วยหรือไม่ครับ.............แล้วสรุปว่าถ้าต่อ can จะช่วยให้การทำงานของ ecu แก๊สใกล้เคียง ecu รถหรือไม่ครับ

ขอบคุมากครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 08:19:11 pm »

ของ new city crv g3 2.0 lite ก็เป็นเหมือนแบบนี้ครับ ถ้าต่อ obd can จะเป็นการบังคับ ให้ ค่า short term วิ่งเข้า หา 0 % ครับ คือเน้น จ่ายสมบูรณ์ ครับ

แต่ ถ้า จูนแบบทั่วไป ระบบแก๊ส มากจะออกมาในทางหนา นิด ๆ ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10695



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 10:43:46 pm »

ทดสอบกล่องแปลงสัญญาณ เวอร์ชั่นใหม่ สำหรับรถยนต์ ค่าย honda

http://jautogas.com/board/index.php?topic=1774.0
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF DK THEME: deruni
Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!

J AUTOGAS

34/38 ซ.แจ้งวัฒนะ 43 หมู่ที่1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร 02-5744-313  เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00น.

สายด่วนลูกค้าทางร้าน

โทรได้ตลอดไม่เว้นวันหยุด

phone084