logo-jauto
หน้าแรกเกี่ยวกับเราราคาติิดตั้งแก๊สรถตัวอย่างราคาอุปกรณ์สาระน่ารู้webboardสอบถาม/แผนที่
เจ ออร์โต้แก๊สFacebook

   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงไซเรนเตือนเรื่องความร้อนในรถยนต์ ก่อนเครื่องยนต์ฮีต  (อ่าน 11799 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« เมื่อ: สิงหาคม 23, 2011, 09:08:21 PM »

ความจริง ที่ ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ แบบไม่มี เกจวัดปริมาณความร้อน (หรือเข็มวัดความร้อนติดตั้งมาให้ที่หน้าปัด)  ทางบริษัท ผลิตรถยนต์ ได้ติดตั้ง ไซเรนเตือน  เมื่อเครื่องยนต์ มีความร้อน สูง ผิดปกติ มาให้จากโรงงานอยู่แล้วครับ


หากเมื่อใด  ที่เครื่องยนต์ มีความร้อนสูงผิดปกติ จนถึงระดับที่ ทาง กล่อง ecu  เครื่องยนต์ ตรวจจับได้ เข้าย่านนั้น  ทางไซเรนที่ติดตั้งไว้   จะดัง  และร้องเตือน ดังในรถทันที ครับ  คือ  เตือน  ก่อนที่เครื่องยนต์ จะฮีต  ครับ

ส่วน รถรุ่นใด ถ้า ในรถยนต์ มี เข็มวัดปริมาณ ความร้อนติดตั้งมาให้  ในรถยนต์ รุ่นนั้น  ก็จะไม่มี การติดตั้งไซเรนมาให้   คือ จะมีแค่  เกจ วัดมาให้อย่างเดียว


สรุป  รถยนต์รุ่นใด  ไม่มี เกจวัดความร้อน มาให้  หากน้ำหล่อเย็น รั่วซึม เครื่องยนต์ มีความร้อน สูงขึ้นผิดปกติ ก่อนฮีต เสียงไซเรนในรถ จะดังเตือน ขึ้นมาก่อนให้เราหยุดรถ เพื่อตรวจสอบ ครับ

แต่หาก รุ่นใด มีเข็ม วัด หรือ เกจ วัดมาให้  ตัวไซเรนเตือน ความร้อนในรถยนต์ รุ่นนั้น ก็จะไม่มี ติดตั้งมาให้ครับ

ลองสอบถาม ข้อมูล จาก บริษัท ผลิตรถยนต์  หรือ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านเทคนิค   ของรถยนต์ ยี้ห้อ นั้น  จะทำให้ทราบถึงข้อมูล ส่วนนี้ ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
mr.rubsub
Jr. Member
**
กระทู้: 72


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2011, 10:25:43 PM »

แสดงว่า Honda City มีเสียงเตือน ไซเรน ใช่ไหมครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2011, 10:34:25 PM »

ใช่ครับผม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
mr.rubsub
Jr. Member
**
กระทู้: 72


« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2011, 11:44:03 PM »

ผมห่วงเรื่องความร้อน ถ้าพี่เจว่ามันมีเสียงเตือนก็หมดห่วง
สำหรับนิวซิตี้ ก็เหลือ2ปัญหาสำหรับผม
คือเกจ์น้ำมันกับปั๊มติ๊ก
เรื่องปั๊มติ๊ก เท่าที่ผมอ่านแล้ว รถใหม่ปั๊มย้ายไปอยู่ในถังน้ำมัน
ให้เติมน้ำมันไว้เกิน1/4ถังก็ไม่มีปัญหาเรื่องปั๊มติ๊กเสีย
ส่วนเกจ์น้ำมัน ซึ้งผมชินแล้ว แต่บอกเพื่อนๆครับ
ถ้าเติมน้ำมันเกินครึ่งถัง เมื่อมันลดลงไปแล้ว มันจะดีดกลับเองครับ
เลยว่าถ้าเติมไปครึ่งถังก็ไม่ต้องห่วงเรื่องปั๊มติ๊กและเรื่องเกจ์น้ำมันแ้ล้ว

ถ้าผิดพลาดตรงไหน รบกวนพี่เจแก้ไขให้ด้วย
สำหรับน้ำมัน ถ้ารถรองรับน้ำมันE20 พี่เจบอกให้เติม
เบนซิน95หรือโซฮอล95 บอกว่าถ้าว่างจะมาให้ความรู้
ผมและเพื่อนๆหลายท่านยังรออยู่นะครับ



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 10:07:03 AM »

น้ำมัน ที่เติมในถัง ตอนนี้  ขอแก้ไข ข้อมูลใหม่ ทั้งหมด ครับ

กับรถยนต์ บางรุ่น ที่น้ำมัน ติดถัง  เป็น น้ำมัน ออกเทนต่ำ   หรือ  ค่า พลังงานต่ำ   ถ้านำรถมาติดตั้งแก๊ส  แล้ว กล่อง ecu เครื่องยนต์ มีการ ปรับตัวเร็ว 

เช่น  lancer ex  รถเหล่านี้ ถ้านำมาติดตั้งแก๊ส   แล้ว  น้ำมันในถังเป็น  91 จะมีปัญหา สตาร์ทยากในตอนเช้า แต่ พอเปลี่ยนไปใช้ น้ำมัน 95 อาการ นี้ ก็หายเป็นปกติ


เช่น เดียว กับ อาการ สะดุด ตอน เปลี่ยน จาก แก๊ส มาเป็นน้ำมัน   ก็เกิดจาก  ตัวเชื้อเพลิง  สองตัว คือ แก๊ส  กับ  น้ำมัน มีค่า พลังงานไม่เท่ากัน ทำให้เกิด อาการ เครื่องยนต์ รอเชื้อเพลิง อยู่ระยะ หนึ่ง ทำให้ เกิดอาการ สะดุดตอนเปลี่ยน


ปล.   แต่ ปกติ  การ   ปรับเปลี่ยน จากแก๊ส  มาเป็นน้ำมัน  เป็น เรื่อง ที่ลูกค้า ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ทำกัน   ถ้ามี แต่ เล็กน้อย   ก็ว่า  ไม่ได้มีปัญหา ต่อการใช้งาน

แต่ ถ้า สะดุด ตอนเปลี่ยน จาก น้ำมันไปเป็นแก๊ส   ถือว่า  เป็นเรื่องใหญ่  เพราะ   จะสร้างความรำคาญ ให้แก่  ผู้ขับขี่ได้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
thunyarus
Newbie
*
กระทู้: 9


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 12:28:37 PM »

รถติดแก๊ส น้ำมันที่เติมควรเป็น
เบนซิน 91 หรือ โซฮอล 95 ดีกว่ากันคะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 12:53:39 PM »

95 ดีกว่าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
mr.rubsub
Jr. Member
**
กระทู้: 72


« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 01:31:16 PM »

แล้วเรื่องโซฮอล เน่า ตกลงมันเป็นยังไงครับพี่เจ
แล้วถ้าไม่ค่อยได้ใช้ จะเป็นไรไหม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
LGC
Newbie
*
กระทู้: 27


« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2011, 11:09:00 PM »

ถ้ารถสะดุด ตอนเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊ส เพราะต้องผู้ขับขี่ ต้องการ เจตนากด เพื่อปรับไปใช้น้ำมัน สำหรับเลี้ยงบ่าวาล์ว กรณี วิ่งแก๊สมาระยะไกลๆ เช่นทุกๆ 100 km. ปรับเปลี่ยนมาวิ่งน้ำมัน 10 km. คำถามคือ .........

1.) ตอนกดเปลี่ยนแก๊สเป็นน้ำมัน มันสะดุด นิดนึง จะส่งผลต่อเครื่องยนต์ไหมครับ เพราะบางที ก็ เปลี่ยนไปๆ มาๆ บ่อย เนื่องจากต้องการเลี้ยงบ่าวาล์ว หรือ ไม่ก็ ต้องการเร่งแซงให้พ้น แล้วใช้รอบสูงประมาณ 4-5 พัน รอบ (ใช้น้ำมัน เพราะกลัว ร้อนจัด เครื่องสึกหรอไว ถ้าใช้แก๊ส ช่วงอัด เร่งแซง ให้พ้น 10 ล้อ ทางสวน)

2.) การเปลี่ยนไปใช้น้ำมันบ้าง เพื่อเลี้ยงบ่าวาล์ว ทุกๆ การวิ่งแก๊ส 100 km ให้ตัดกลับมาน้ำมัน 10 km กับ วิ่งทุกๆ 50 km. แล้วตัดกลับมาใช้น้ำมัน 5 km ให้ผลแตกต่างกันหรือไม่ ? ครับ คือ ไม่แน่ใจว่า เลี้ยงบ่าวาล์ว ด้วยการวิ่งน้ำมัน ถ้าวิ่งระยะสั้นเกินไป อาจจะไม่ส่งผล หรือ เปล่า ? เพราะมันสั้นไป แบบว่า น้ำมันระเหย แห้งหมด ก่อนจะไปเลี้ยงบ่าวาล์ว หรือ อุณหภูมิห้องเผาไหม้ ยังไม่้ทันลดลง ตอนกลายเป็นน้ำมัน แต่ระยะเลี้ยงน้ำมัน สั้นไป ทำให้เหมือนไม่ได้ไปเลี้ยง บ่าวาล์ว หรือว่าดีแล้ว เลี้ยงบ่อยๆ สั้นๆ ดีกว่า ยาวๆ แล้ว switch ไปใช้น้ำมันเลี้ยงบ่าวาล์วนานๆ หรือ ให้ผลเท่ากัน อย่างไร รบกวนท่าน J ด้วยคับ

ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
7GeaR
Full Member
***
กระทู้: 130


« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 03:44:04 AM »

แหล่มมากเลยครับพี่เจ กำลังคิดอยู่ว่าถ้าเครื่องร้อนจะรู้ได้ไงวะ 555+ ที่แท้เค้าก็ติดอุปกรณ์ไซเรนมาให้แล้วนี่เอง อิอิ

อ๋อ ขอฟังคำตอบจากเรปบนด้วยนะครับ ^^
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
khaimook
Newbie
*
กระทู้: 11


« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 05:10:52 AM »

ขอสอบถามช่างเจด้วยว่ารถผม Altis MC จะเติมเบนซิน 95 ได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 08:43:13 AM »

แล้วเรื่องโซฮอล เน่า ตกลงมันเป็นยังไงครับพี่เจ
แล้วถ้าไม่ค่อยได้ใช้ จะเป็นไรไหม


คือ ต้องเลือกครับ ว่า จะเอา แบบ  ขับแก๊ส อยู่ แล้วปรับมาเป็น น้ำมัน  มีอาการ สะดุด เล็กน้อย  วูบเล็กน้อย  รับได้หรือไม่  หาก  รับอาการ นี้ได้  ก็ให้ใช้  91 ได้ครับ
แต่ ถ้าต้องการ แบบ ราบเรียบ เลย  ก็ต้องแนะนำ เป็น น้ำมัน 95 ครับ

ส่วนเรื่อง น้ำมันบูด   ถ้าภายใน เดือนสองเดือน  ถ้าไล่ น้ำมันเก่าในถัง  จนหมด   ก็ไม่มีปัญหาอะไร ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 08:49:02 AM »

ถ้ารถสะดุด ตอนเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊ส เพราะต้องผู้ขับขี่ ต้องการ เจตนากด เพื่อปรับไปใช้น้ำมัน สำหรับเลี้ยงบ่าวาล์ว กรณี วิ่งแก๊สมาระยะไกลๆ เช่นทุกๆ 100 km. ปรับเปลี่ยนมาวิ่งน้ำมัน 10 km. คำถามคือ .........

1.) ตอนกดเปลี่ยนแก๊สเป็นน้ำมัน มันสะดุด นิดนึง จะส่งผลต่อเครื่องยนต์ไหมครับ เพราะบางที ก็ เปลี่ยนไปๆ มาๆ บ่อย เนื่องจากต้องการเลี้ยงบ่าวาล์ว หรือ ไม่ก็ ต้องการเร่งแซงให้พ้น แล้วใช้รอบสูงประมาณ 4-5 พัน รอบ (ใช้น้ำมัน เพราะกลัว ร้อนจัด เครื่องสึกหรอไว ถ้าใช้แก๊ส ช่วงอัด เร่งแซง ให้พ้น 10 ล้อ ทางสวน)
ไม่มีปัญหากับเครื่องยนต์ครับ2.) การเปลี่ยนไปใช้น้ำมันบ้าง เพื่อเลี้ยงบ่าวาล์ว ทุกๆ การวิ่งแก๊ส 100 km ให้ตัดกลับมาน้ำมัน 10 km กับ วิ่งทุกๆ 50 km. แล้วตัดกลับมาใช้น้ำมัน 5 km ให้ผลแตกต่างกันหรือไม่ ? ครับ คือ ไม่แน่ใจว่า เลี้ยงบ่าวาล์ว ด้วยการวิ่งน้ำมัน ถ้าวิ่งระยะสั้นเกินไป อาจจะไม่ส่งผล หรือ เปล่า ? เพราะมันสั้นไป แบบว่า น้ำมันระเหย แห้งหมด ก่อนจะไปเลี้ยงบ่าวาล์ว หรือ อุณหภูมิห้องเผาไหม้ ยังไม่้ทันลดลง ตอนกลายเป็นน้ำมัน แต่ระยะเลี้ยงน้ำมัน สั้นไป ทำให้เหมือนไม่ได้ไปเลี้ยง บ่าวาล์ว หรือว่าดีแล้ว เลี้ยงบ่อยๆ สั้นๆ ดีกว่า ยาวๆ แล้ว switch ไปใช้น้ำมันเลี้ยงบ่าวาล์วนานๆ หรือ ให้ผลเท่ากัน อย่างไร รบกวนท่าน J ด้วยคับ
หากด้วยแก๊ส  แล้วขับเร็ว  ขับซิ่ง  กดมิดคันเร่งตลอด   แล้ว ในใจ คิดว่า อัดมาพอสมควรแล้ว ปรับไปใช้น้ำมันหน่อย เพื่อ ถนอมเครื่องยนต์ แบบนี้ช่วยอะไร ไม่ได้เลย  เพราะเครื่องยนต์ ได้สึกหรอไปแล้วในช่วงที่อัด ตอนนั้น ครับ
และช่วงก่อน ผมได้ทดลอง รอบสูง ปรับไปใช้น้ำมันใน เพื่อถนอมเครื่องยนต์ ผลออกมาว่า  ถึงแม้ รอบสูงจะตัดไปใช้น้ำมัน  แต่ถ้าลักษณะการขับขี่ เป็นลักษณะอัด วิ่งเร็ว   การปรับตั้งลักษณะนี้  ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ครับ เพราะ สุดท้าย ก็มีอาการวาล์วยันเกิดขึ้น  จนตอนนี้ ผมได้ยกเลิก ฟังก์ชั่นนี้ออกไปแล้วครับ
ขอบคุณครับ

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 07:19:17 PM »

แหล่มมากเลยครับพี่เจ กำลังคิดอยู่ว่าถ้าเครื่องร้อนจะรู้ได้ไงวะ 555+ ที่แท้เค้าก็ติดอุปกรณ์ไซเรนมาให้แล้วนี่เอง อิอิ

อ๋อ ขอฟังคำตอบจากเรปบนด้วยนะครับ ^^

new city ติดตั้งไซเรนมาให้

แต่ ของ vios  จากที่สอบถามมา  รู้สึก ว่า ไฟเตือนจะโชว์ มา

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2011, 07:27:00 PM »

แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพิ่มเติมอีกนิด ครับ เพื่อจะได้ คลาย กังวล เพิ่มเติม

เครื่องยนต์ รุ่นใหม่ ของ toyota  หรือ อาจ จะเป็น honda ด้วยหรือไม่  ยังไม่แน่ใจ

ตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ของ toyota  altis  vios  หรือ รุ่นอื่นๆ  ที่ทั้ง  ฝาสูบ  และ เสื้อสูบ  เป็น อลูมิเนียม  ทั้งตัว   ถึงแม้ เราขับ จน เครื่องยนต์  โอเวอร์ฮีต  น้ำแห้ง  จนเครื่องยนต์ ดับไปเอง  เนื่องจาก ความร้อน ขึ้นสูง ยันเกจ 

แต่ หาก เรา ตั้งสติได้   ดับเครื่องยนต์  จอดริมทาง  รอจนเครื่องยนต์เย็น  แล้ว เราค่อยเติมน้ำลงไป   แก้ไข จุดที่รั่วซึม ให้เรียบร้อย     รถยนต์ คันนั้น  และ เครื่องยนต์ เครื่องยนต์  ก็ยังทำงานได้ต่อ  แบบ ปกติ  ไม่มีปัญหา แทรกช้อน  หรือ  เกิดอาการ ฝาสูบโก่ง   เสื้อสูบ  แตก แต่อย่างใด ครับผม

ทำไม  ถึง ฝาสูบ จึงไม่โก่ง   เสื้อสูบ  ไม่แตก  ทั้งๆ ที่เครื่องยนต์ ฮีต ไปแล้ว เนื่องจาก   เมื่อ เครื่องยนต์ มีความร้อน สูงขึ้น   ก็ สูงขึ้น  ทั้ง  ฝาสูบ  และ เสื้อสูบ  เพราะ เป็น วัสดุ อลูมิเนียม เหมือนกัน   โดนความร้อน ก็ ขยายตัว พร้อมๆ กัน บิดตัว  พร้อมกัน   ดังนั้น  จึงไม่เกิด อาการ ฝาสูบโก่ง  ฝาสูบแตก


ตัวเครื่องยนต์  ที่มีปัญหา  เวลาความร้อน ขึ้นสูง  แล้ว ฝาสูบ โก่ง  ประเก็นแตก  ฝาสูบแตก  เกิดจาก  เมื่อความร้อนขึ้นสูง  ตัว ฝาสูบ  กับ ตัว เสื้อสูบ  วัสดุ คนละแบบ กัน ทำให้ การบิดตัว  ขยายตัว ได้ไม่เท่ากัน  เลยทำให้เกิดการ งัดกัน   ขัดกัน   เบียดกัน  จนทำให้ ฝาสูบ โก่ง หรือ แตก  ขึ้นมาครับ

ปล.  แต่ เคสแบบนี้  ไม่ได้ โชคดีทุกคัน นะครับ   อาจมีบางคัน  อาจ เกิด อาการ  โก่ง  ก็ได้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF DK THEME: deruni
Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!

J AUTOGAS

34/38 ซ.แจ้งวัฒนะ 43 หมู่ที่1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร 02-5744-313  เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00น.

สายด่วนลูกค้าทางร้าน

โทรได้ตลอดไม่เว้นวันหยุด

phone084